รีวิว โทรลล์ส เวิลด์ ทัวร์

รีวิว โทรลล์ส เวิลด์ ทัวร์

โดย trolls world tour ภาคนี้ได้เล่าย้อนตำนานของโทรลส์ ว่าด้วยกำเนิดแห่งเสียงดนตรีเมื่อพระเจ้ามอบสายเสียงที่เหมือนสายพิณไว้ให้ 6 สายแทนแนวเพลงแต่ละแนวทั้งคลาสสิก, ร็อก, พอป, เทคโน, คันทรีย์ และ ฟังก์ จนกระทั่งวันหนึ่งก็มีอันทำให้โทรลส์แต่ละเผ่าเอาสายเสียงของแนวเพลงตัวเองไปเก็บไว้ โดยไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นสาเหตุที่ทำให้โทรลส์แต่ละเผ่าพันธุ์ต่างแบ่งแยกแตกความสามัคคีและมุ่งแต่จะรักษาเส้นเสียงและแนวดนตรีของตัวเองให้ดีที่สุด  อนิเมะผู้หญิง

และนั่นก็เป็นที่มาให้ตัวละครใหม่ในภาคนี้อย่าง บาร์บ (ราเชล บลูม) โทรลส์เผ่าร็อคเดินหน้ารุกรานโทรลส์พันธ์ุอื่น ๆ โดยหวังเอาเพลงแนวร็อคให้เป็นจุดประสานให้โทรลส์กลายเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง และที่ผมต้องเขียนถึงบาร์บก่อนจะกล่าวถึงตัวละครพระนางอย่าง พอปปี (แอนนา เคนดริก) และ แบรนช์ (จัสติน ทิมเบอร์เลค)

ก็เพราะตัวหนังในภาคนี้เองขับเคลื่อนด้วยตัวร้าย (Antagonist) อย่าง บาร์บ เป็นหลักและมันยังทำให้เห็นว่า พอปปี เองก็เหมือนอีกด้านของบาร์บในแง่ของการเอา ความเป็นหนึ่งเดียวมาเป็นข้ออ้างในการยึดครองคนอื่น ผิดเพียงแค่พอปปีหวังว่าทุกคนจะกลายเป็นเพื่อนกันหากโทรลส์ทุกคนชอบอะไร “เหมือนกัน” ดูอนิเมะ

รีวิว โทรลล์ส เวิลด์ ทัวร์

รีวิว trolls world tour  และโดยที่ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก Trolls World Tour ก็แทบจะมีสารทางการเมืองชัดเจนเหลือเกินและการที่มันมาในรูปแบบแอนิเมชันก็ทำให้มันสื่อสารกับเด็กได้เข้าใจง่ายเสียด้วย ว่าคนเราไม่จำเป็นต้องเหมือนกันหมด ยิ่งเมื่อแทนค่าแนวดนตรีด้วยสีผิว ศาสนา หรือความเชื่อแล้วล่ะก็ยิ่งชัดเจนทีเดียว โดยหลักฐานสำคัญนอกจากคำพูดของบาร์บ เว็บดูอนิเมะ

ที่เหยียดแนวเพลงพอปว่าไร้แก่นสารและมีดีแค่ท่อนฮุกติดประสาทแล้ว แม้แต่พอปปีเองก็ยังพยายามจะท้าทายความเชื่อของ โทรลส์เผ่าคันทรีย์ว่ามีแต่เพลงเศร้าและหดหู่ จนเผลอร้องเพลง Who let the dogs out จนกลายเป็นข้อบาดหมางใหญ่โต

และเมื่อเราเอาพลอตของหนัง Trolls ทั้ง 2 ภาคมาเทียบเรากลับพบความเชื่อมโยงในความต่างของภารกิจของพอปปีและแบรนช์ทั้ง 2 ครั้ง หากคราวที่แล้วพวกเขาต้องช่วยโทรลส์จากสัตว์ประหลาดที่จับพวกเขาเป็นอาหาร คราวนี้ก็กลายเป็นการปกป้องแนวเพลงตัวเองก่อนจะถูกกลืนกินจนอัตลักษณ์ของดนตรีตัวเองต้องหมดสิ้น จนสมองก็ซุกซนไปคิดถึงเรื่องราวความขัดแย้งทางชาติพันธุ์และสีผิวที่สหรัฐอเมริกาเมื่อไม่นานมานี้แบบอัตโนมัติเลยล่ะ  trolls world tour สปอย

จุดเด่นและจุดด้อย

และนั่นมันก็เปิดโอกาสให้เราได้ไปรู้จักแนวเพลงต่าง ๆ ผ่านการเดินทางของพวกเขาที่ยิ่งผ่านเวลาของหนังก็ยิ่งเห็นการหยิบยืมและปรับเปลี่ยน ทั้งพอปและร็อกที่ต่างก็มีฮุคโดน ๆ ไม่ต่างกัน หรือไม่ว่า ฟังก์ ฮิปฮอป หรือ เค-พอป ต่างก็มีแขนขาเป็นทำนองและจังหวะ จนเป็นที่มาของตอนจบสุดประทับใจ ซึ่งตรงนี้ต้องบอกว่ามันสามารถถ่ายทอด

เรื่องยาก ๆ อย่างอัตลักษณ์ของดนตรีแต่ละประเภทได้ดีมากเหมาะกับเด็กจริง และก็แฝงข้อคิดของการยอมรับในความต่างของเพื่อนร่วมโลกให้เยาวชน จนเรากล้าคาดหวังเลยว่าหนังเรื่องนี้จะกล่อมเกลาให้พวกเขามองคุณค่าของมนุษย์ให้เท่ากันให้จงได้  ดูอนิเมะออนไลน์

ส่วนข้อเสีย หนังยังมีจุดด้อยอยู่บ้างในเรื่องความสดใหม่ และมุกตลกที่บางทีก็ไม่เข้าเป้าหรือคนพากย์เล่นยังไม่ลงตัว โดยเฉพาะมุกเหนียม ๆ ของเจมส์ คอร์เดน ที่พากย์เป็น บิ๊กกี ที่เจ้าตัวดูจะถนัดมุกกาว ๆ มากกว่า แต่กระนั้นพอเพลงดัง ๆ ติดหูมาทีไรทั้ง Rock You Like A Hurricane , One More Time หรือจะเป็นเพลงเคพอปอย่าง Russian Roulette ของ Red Velvet ดังขึ้นมาก็อดจะโยกตามไม่ได้จริง ๆ จนกลายเป็นโปรแกรมที่ทำให้เรายิ้มกว้างที่สุดหลังโรงหนังเปิดได้เลย  trolls world tour เต็มเรื่อง

การดำเนินเรื่อง

แอนนา เคนดริก และจัสติน ทิมเบอร์เลค กลับมาให้เสียงพากย์ใน Trolls World Tour โทรลล์ เวิลด์ ทัวร์ ภาคต่อของผลงานภาพยนตร์มิวสิคัลสุดฮิตในปี 2016 ของดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชั่น ในการผจญภัยที่จะพาพวกเขาไปยังที่ที่พวกเขาเคยรู้จักมาก่อน ป็อปปี้ (เคนดริก) และบรันช์ (ทิมเบอร์เลค) พบว่าพวกเขาเป็นเพียงหนึ่งในหกเผ่าโทรลล์ ซึ่งกระจายอยู่ทั่วหกดินแดนที่มีความแตกต่างกันและชื่นชอบดนตรี 6 ประเภทที่แตกต่างกัน: ฟั๊งค์, คันทรี, เทคโน, คลาสสิค, ป็อป และร็อค   ดูการ์ตูนอนิเมะ

โลกของพวกเขากำลังจะขยายใหญ่ขึ้นและดังขึ้น ควีน บาร์บ (เรเชล บลูม) สมาชิกของสาวกดนตรีฮาร์ดร็อค และคุณพ่อ คิง แทรช (ออสซี่ ออสบอร์น) อยากจะทำลายดนตรีประเภทอื่น ๆ เพื่อให้ดนตรีร็อคขึ้นครองบัลลังก์ เมื่อโลกตกอยู่ในความเสี่ยง, ป็อปปี้, บรันช์ และเพื่อน อย่าง บิ๊กกี้ (เจมส์ คอร์เดน), เชนนิล (คาโรไลน์ ฮเจลท์), ซาติน (ไอโน จาโว) คูเปอร์ (รอน ฟันเชส) และกาย ไดมอนด์ (คูนาล เนย์ยาร์) ออกเดินทางไปยังดินแดนอื่น ๆ ทั้งหมด เพื่อรวมเหล่าโทรลล์เข้าด้วยกัน เพื่อต่อต้านบาร์บที่กำลังเตรียมทำลายล้างพวกเขาทั้งหมด  trolls world tour สปอยหนัง

รีวิว โทรลล์ส เวิลด์ ทัวร์ บทสรุป

รีวิว trolls world tour   เป็นภาพยนตร์ Animation ภาคต่อของ Trolls ที่ออกฉายเมื่อปี 2016 ซึ่งขอออกตัวก่อนเลยว่าผมยังไม่ได้ดูภาคแรก แต่จากตัวอย่างหนังคิดว่าน่าจะเป็นหนังดูง่าย ไม่ยาก และติดตามเนื้อเรื่องได้ ซึ่งก็พบว่าเป็นเช่นนั้นเลย คือสามารถดูภาคนี้เลยก็ได้ครับ รู้เรื่องเหมือนกัน เนื้อหาไม่ซับซ้อน

ส่วนที่น่าชื่นชมในหนังคืองานภาพสีลูกกวาดที่ทำออกมาได้สวยมาก ๆ และมีสไตล์ของตัวเองในสำหรับ Trolls แต่ละประเภท และคุณภาพงานเพลงที่เพราะมากทั้งเสียงดนตรี และเสียงร้อง คือถือได้ว่าเป็นหนังที่ทำการบ้านเรื่องเพลงมาดีมาก หลาย ๆ เพลงแม้จะออกมาแบบสั้น ๆ แต่คือเพราะจับใจจริง ๆ

ในส่วนของบทและเนื้อหา ถ้ามองแบบผู้ใหญ่คือ มันดูง่ายไปหมด ง่ายจนงงว่า จบง่ายดีเนอะ จะว่าสูตรก็สูตรเกินไป คือดูเป็นหนังที่เด็กไปเลย แต่ก็นั่นแหละครับ ด้วยจุดเด่นของหนังเรื่องนี้คือให้ความสนุกสนาม เพลงเพราะ และมุกตลก ดังนั้นหนังจึงไม่ได้ใส่ความซับซ้อนของตัวบทเท่าไหร่

โดยรวมก็เป็นหนังที่ดูสนุก ดูเพลิน ๆ เหมาะกับสายที่อยากฟังเพลงเพราะ ๆ ดูภาพสวย ๆ และด้วยความเป็นการ์ตูนใส ๆ ไม่มีพิษมีภัย เรื่องนี้จึงเหมาะกับทุกเพศทุกวัย เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดีครับ  trolls world tour บทสรุป

โดยรวมหนัง

ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Trolls World Tour โทรลล์ส เวิลด์ ทัวร์ เปิดเรื่องราวมาที่ โลกมหัศจรรย์สีสันสดใส ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของ เหล่าโทรลล์ ผู้มองโลกในแง่ดีและเอาแต่ร้องรำทำเพลงกันทั้งวันทั้งคืน กับ เหล่าเบอร์เกน ผู้มองโลกในแง่ร้ายและจะมีความสุขได้ก็ต่อเมื่อมีตัวโทรลล์อยู่ในท้องเท่านั้น โดยหลังจากเบอร์เกนบุกโจมตีหมู่บ้าน

โทรลล์ ป็อปปี้ โทรลล์สาวผู้มีความสุขที่สุดในโลก กับ แบรนช์ โทรลล์หนุ่มจอมหวาดระแวงที่อารมณ์เสียตลอดเวลา ได้ร่วมกันออกเดินทางไปช่วยเหลือเพื่อนๆ ภายใต้ภารกิจที่เต็มไปด้วยการผจญภัยและความวุ่นวายแล้วเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ต้องติดตามชมทางกับภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Trolls World Tour โทรลล์ส เวิลด์ ทัวร์

ความประทับใจหลังดูภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Trolls World Tour โทรลล์ส เวิลด์ ทัวร์    trolls world tour สนุกไหม

อนิเมชั่นเรื่องนี้เต็มไปด้วยฉากร้องเพลงสุดอลังการ และด้วยความที่บทเพลงพากษ์เป็นภาษาไทยก็ยิ่งทำให้เราอินไปกับเพลง ดูไปเพลินไปกับเพลงเพราะๆ นอกจากนี้ยังมีความสนุกจากการผจญภัยของตัวละครที่ทั้งสนุกทั้งน่ารัก ใน Trolls World Tour โทรลล์ส เวิลด์ ทัวร์  การ์ตูน ดิสนีย์ netflix