รีวิว Corpse Bride ในเมืองเล็กๆเมืองหนึ่ง มีครอบครัวเศรษฐี 2 ครอบครัวจะมาแต่งงานกัน นั่นก็คือครอบครัวของพระเอกของเรา ตระกูลของวิคเตอร์ ซึ่งเป็นคนจนมาก่อน แต่ก็เพิ่งจะมาร่ำรวยจากธุรกิจการทำประมง พูดง่ายๆก็คือเป็นเศรษฐีหน้าใหม่นั่นเอง ส่วนครอบครัวฝ่ายหญิงเธอมีชื่อว่าวิคตอเรีย พ่อแม่ของเธอเป็นคนในตระกูลเศรษฐีที่ร่ำรวยและมียศถาบรรดาศักดิ์

แต่ทว่าในตอนนี้ครอบครัวของพวกเขานั้นกำลังล้มละลายเหลือเพียงแต่ที่ดินกับบ้านหลังโต แต่ก็ไม่ได้มีเงินเหลือสักแดงเดียว สรุปคือครอบครัวของวิคเตอร์เนี่ยจนมาก่อนแล้วก็เพิ่งจะรวย ครอบครัวของวิคตอเรีย รวยมาก่อนแล้วก็เพิ่งจะมาจนแล้วพ่อแม่ของวิคตอเรียก็ต้องการจะเอาลูกสาวคนสวยมาคลุมถุงชนแต่งงานกับวิคเตอร์ เพื่อที่จะหวังเอาทรัพย์สมบัติของครอบครัวพระเอกทำให้ครอบครัวของตัวเองได้กลับมาแล้วรวยอีกครั้ง

แต่ก่อนที่จะมีพิธีแต่งงานนั้นจะต้องมีการซ้อมเป็นพิธีแต่งงานก่อน  ซึ่งนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ทำให้ทั้งสองครอบครัวต้องมาเจอหน้ากันโดยครอบครัวฝ่ายหญิงนั้นก็แสดงท่าทีที่เหยียดต่อครอบครัวฝ่ายชายอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากครอบครัวฝ่ายชายนั้นเคยเป็นคนจนมาก่อนนั่นเอง

พ่อแม่ของทั้งสองไปดื่มน้ำชากันที่ห้องรับแขก แต่วิคเตอร์ก็ไปสะดุดตาเข้ากับเปียโนที่ตั้งอยู่กลางบ้านก็เลยโชว์เล่นเปียโน และเสียงเพลงเนี่ยมันดังไปถึงห้องของวิคตอเรียเลย เธอก็เลยสงสัยว่าใครเป็นคนเล่นเปียโน และเธอก็เดินตามเสียงเพลงไป ซึ่งนี่คือการพบหน้ากันครั้งแรกของวิคเตอร์กับวิคตอเรีย ทางด้านพระเอกที่ได้เห็นเจ้าสาวสุดสวยของตัวเองครั้งแรกเนี่ยก็เขินทำตัวไม่ถูกเลย

ว่าด้วยเรื่องราวมีพื้นหลังในยุค Victorian Era (1837 – 1901) ประเทศอังกฤษ, Victor Van Dort (พากย์เสียงโดย Johnny Depp) ชายหนุ่มลูกพ่อค้าขายปลาจนร่ำรวยเงินทอง นามว่า วิคเตอร์ถูกจับคลุมถุงชนให้แต่งงานกับ Victoria Everglot (พากย์เสียงโดย emily watson) ลูกสาวของครอบครัวชนชั้นสูง แต่กำลังตกยากเพราะขาดทุนทรัพย์ใช้หนี้ แม้การพบเจอกันทำให้พวกเขาตกหลุมรักแรกพบ

โดยตัวละครใน Corpse Bride ถูกออกแบบโดยใช้เค้าโครงใบหน้าคู่ขวัญนักแสดงในทีมสุดฮอตเจ้าประจำอย่างจอห์นนี่ เดปป์และเฮเลนา บอนแฮม คาร์เตอร์ด้วยทำให้ยิ่งได้อรรถรสเข้าไปใหญ่อะลังการงานสร้างไปอีก

Victor Van Dort ชายหนุ่มขี้อาย กลัวๆกล้าๆยังขาดความมั่นใจในตนเอง โชคดีได้พบเจอหญิงสาวที่มีความคล้ายคลึงกับตน มองตารับรู้เข้าใจ เป็นรักแรกพบที่หาเจอได้ยาก แต่ลึกๆแล้วเหมือนว่าเขายังมีความลังเลไม่แน่ใจอยู่ ความสะเพร่าเลินเล่อและโชคชะตาที่พลิกผันแต่งงานกับศพสาว ทำให้เขาเรียนรู้ความผิดพลาด ค้นพบเจอความต้องการตั้งใจจริงของตนเอง คราวนี้แหละช้างสารก็มิอาจฉุดรั้งไว้ได้

Emily หรือ Corpse Bride หญิงสาวสุดสวยสดใสร่าเริงเป็นมิตรกับผู้คน ถูกฆาตกรรมขณะยังเป็นเจ้าสาวในวันแต่งงาน ทำให้สถานะยังโสดซิง ตายแล้วเลยไม่สามารถปลดปล่อยใจไปผุดเกิดใหม่ได้ การบังเอิญแต่งงานกับ Victor ได้เติมเต็มความฝันเป็นเจ้าสาว แต่เพราะเขาไม่ได้รักจะให้ทำอย่างไร เมื่อถึงจุดๆหนึ่งเธอจึงพร้อมเสียสละปล่อยเขาไป ขณะที่ชายหนุ่มก็พร้อมเสียสละบางอย่างเพื่อเธอเช่นกัน นั่นทำให้ Emily ได้พบกับเจ้าบ่าวตัวจริงผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด

การออกแบบตัวละคร สังเกตว่าพวกมนุษย์จะเป็นโทนสีขาว-เทา-ดำ สะท้อนถึงความจืดชืด น่าเบื่อหน่าย ทุกข์ยากลำบากในการใช้ชีวิต, สำหรับพ่อ-แม่ ของทั้ง Victor และ Victoria จะมีรูปลักษณ์ตรงกันข้าม

ฝั่งของ Victor: พ่อจะหัวใหญ่คางลีบ (สามเหลี่ยมคว่ำ) หัวล้าน คิ้วชี้ขึ้น ร่างผอมบาง, ส่วนแม่จะหน้าผากแคบแก้มยุ้ย (สามเหงี่ยมหงาย) ผมม้วนมัด คิ้วชี้ลง ร่างท้วนบวม

ฝั่งของ Victoria: พ่อจะอ้วนกลมป้อมตัวเตี้ย, ส่วนแม่ผอมบาง คางยาว ผมชี้โด่ง สูงลีบ

ส่วนตัวค่อนข้างชื่นชอบอนิเมชั่นเรื่องนี้อย่างมาก หลงใหลในเสียงพากย์ การเคลื่อนไหว และพล็อตสุดประหลาด แม้มันจะไม่ค่อยมีสาระอะไรเท่าไหร่นอกจากความบันเทิงรมย์ แต่คือเรื่องที่ทำให้ผมรู้จักคลั่งไคล้กับ Stop-Motion เลยขอยกไว้ในฐานเข้าใจ

หนัง Corpse Bride เจ้าสาวศพสวยมีความน่าสนใจตรงที่ในฉากแรก ๆ จะออกแนวสไตล์มืด ๆ ทำให้เราแอบรู้สึกกลัวเล็กน้อย แต่เมื่อพระเอกถูกดึงให้ลงมาสู่โลกของวิญญาณ ความกลัวก็ได้เปลี่ยนเป็นความน่าสนใจ สดใสแบบแนวแฟนตาซีที่แสดงให้เห็นชีวิตของเหล่าผีว่ามีกิจกรรมอะไรบ้างและโลกแห่งความตายตามในศาสนาคริสต์เป็นเช่นไร

หนัง Corpse Bride เจ้าสาวศพสวย เป็นอนิเมชั่นที่บอกเลยว่างานโปรดักชั่น ฉาก แสง สีและการออกแบบมีความแตกต่างจากอนิเมชั่นอื่น ๆ อาจจะเป็นเพราะเนื้อหานั้นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผี ความลึกลับซับซ้อนด้วย ซึ่งจะออกสไตล์มืด ๆ ทำให้เวลารับชมจะรู้สึกกลัวเล็กน้อย แต่เมื่อพระเอกถูกถึงเข้าไปยังโลกของวิญญาณ ความกลัวก็ได้เปลี่ยนไปเป็นความน่าสนใจ มีความสดใสและแปลกใหม่ในรูปแบบแฟนตาซี มีการแสดงเรื่องราวและกิจกรรมต่าง ๆ ของโลกหลังความตายตามศาสนาคริสต์ว่าเป็นเช่นไร

สำหรับเพลงประกอบ ใช้บริการของ Danny Elfman แต่เพราะต้องทำงานควบคู่ไปกับ Charlie and the Chocolate Factory จึงได้ว่าจ้าง John August ให้มาช่วยแต่งคำร้องบางบทเพลง ซึ่งทุกบทเพลงก็มีความไพเราะ เข้ากับเนื้อเรื่องในแต่ละตอนได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว