รีวิว despicable me 2
เมื่อกรู จอมวางแผน ได้ทิ้งชีวิตอาชญากรไว้เบื้องหลัง เพื่อเลี้ยงดูมาร์โก้ (มิแรนด้า คอสโกรฟจากซีรีส์ iCarly), อีดิธ (ดานา ไกเออร์จาก Bullied) และแอ็กเนส (เอลซีย์ ฟิชเชอร์จากซีรีส์ Masha and the Bear) กรู, ดร.เนฟาริโอ (รัสเซล แบรนด์จาก Get Him to the Greek, Hop)
และพวกมินเนียนก็เลยมีเวลาว่างเป็นของตัวเองอย่างเหลือเฟือ แต่ขณะที่เขาเริ่มจะปรับตัวในฐานะแฟมิลี่แมนในย่านชนบท องค์กรลับสุดยอดที่มุ่งมั่นกับการสู้กับปีศาจร้ายทั่วโลกก็ได้เดินเข้ามา ตอนนี้เป็นหน้าที่ของกรูและลูซี่ ไวลด์ คู่หูใหม่ของเขา (คริสติน วิก แห่ง Bridesmaids, รายการ Saturday Night Live)
ที่จะค้นหาว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังอาชญากรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจเพื่อจับตัวเขามาลงโทษให้ได้ เพราะคงต้องใช้อดีตสุดยอดวายร้ายของโลกเท่านั้นแหละถึงจะจับคนที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะมาแทนที่เขาได้…
ภาคนี้ยังคงความสนุก ภาพสวย เพลงดี อย่างเพลงที่โคตรดังไปเลยอย่าง Happy ก็ในเรื่องนี้นี่แหละ แล้วเรารู้สึกว่าองค์ประกอบหลายๆอย่างในเรื่องดีกว่าภาคแรกด้วย ถึงสเกลมันไม่ได้ใหญ่ขนาดขโมยดวงจันทร์ แต่เรารู้สึกฉากและสถานการณ์ที่ตัวละครต้องไปเจอมันดูแฟนตาซี เว่อวังดี 555 ซึ่งพอมันเว่อวังอลังการอยู่เหนือเหตุผลก็ยิ่งทำให้เราเอนจอยมากขึ้นไปอีก5555
เราชอบภาคนี้หลายๆอย่างเลยแหละ ทั้งตัวละครหลายตัวที่อยู่ในเรื่องที่ดูดี ดูเด่น คือมีอิมแพคที่ทำให้คนจดจำได้ หรือเนื้อเรื่องที่ถึงแม้ไม่ได้มีอะไรมากแต่ก็สนุก แค่ได้ดูการพัฒนาความสัมพันธ์ของตัวละครก็แฮปปี้แล้ว เพราะมันไปเรื่อยๆกับหนัง ถึงบทเรื่องแผนการจะไม่ได้ซับซ้อน ไม่ได้ว้าว แต่ก็ดูได้เพลินๆดี ยิ่งในภาคนี้เหล่ามินเนี่ยนยิ่งเด่นขึ้นกว่าเดิมอีก หลายๆคนก็อาจจะคุ้นมินเนี่ยนเวอร์ชั่นม่วงจากเกม (อย่างเช่นเรา) พอไปดูในเรื่องแล้วเอ้อ ดีเหมือนกัน ความคิดที่ใส่เข้ามาเข้าท่าเลย แล้วเอาของที่อยู่ตอนต้นมาแทรกไว้ในเรื่องเรื่อยๆ
สรุปแล้วภาคนี้ยังคงความดีงามและสนุกขึ้นสำหรับเราด้วยซ้ำ ตัวละครมากขึ้นเลยมีการเกลี่ยบทมากขึ้นทำให้หนังมีสีสันเพิ่มขึ้น ตัวละครทุกตัวสมบูรณ์ แบบไม่ได้มาแบบไม่รู้มาทำไมแต่มาเพื่อสร้างสีสันโดยแท้จริง ทำให้โดยรวมหนังเรื่องนี้สำหรับเราเป็นภาคที่สนุก ฉากในเรื่องหลายฉากสวยมาก เพลงนี่ไม่ต้องพูดถึง ดังระเบิดระเบ้อ ตัวละครที่ก็รักเลย สรุปแล้วดีค่ะ
จะว่าเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องที่คาดหวังอยู่ในใจลึกๆ ก็น่าจะเรียกได้ ส่วนหนึ่งก็คงเพราะความรู้สึกประทับใจกับภาคแรกของมัน อีกส่วนก็คงเพราะตัวอย่างหนังก็ทำเอาไว้ดี จนคิดว่า เมื่อมันเข้าโรงมาให้เราได้ชมกันจริงๆ แล้วมันต้องสร้างความประทับใจให้เราอย่างแน่นอน แล้วเมื่อได้มาดูกับตาจริงๆ ก็พบว่า ไม่ผิดจากที่หวังไว้เลย
แอนิเมชั่นภาคต่อที่กลับมาอีกครั้งในชื่อ Despicable Me 2 หรือชื่อไทย มิสเตอร์แสบ ร้ายเกินพิกัด 2 จากภาคแรกในปี 2010 ผ่านมาอีก 3 ปี มีภาคต่อแล้ว เรื่องราวของอดีตวายร้ายที่กลายเป็นพ่อของลูกสาวทั้งสาม สลัดทิ้งคราบวายร้ายเสียสิ้น และยังมีลูกสมุนสุดป่วนตัวเหลืองอยู่ช่วยงานอยู่กลุ่มใหญ่ๆ ในบ้านหลังนั้น
ดูเหมือนเขาจะมีความสุขดีกับการดูแลลูกสาวทั้งสามที่แม้จะดูแก่นๆ แต่พวกเธอก็รักในพ่อวายร้ายคนนี้ ถ้ามันไม่เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน เมื่อ กรู (Steve Carell) ได้รับติดต่อจากเจ้าหน้าที่สาว ลูซี่ ไวลด์ (Kristen Wiig) ที่ลักพาตัวเขาไปยังองค์กรลับ AVL (Anti-Villain League) เพื่อให้เขาร่วมตามหาวายร้ายที่องค์กรกำลังตามหาอยู่
ความสนุกมันก็บังเกิดขึ้น เมื่อกรูที่กำลังเหงาใจได้คู่หูใหม่เป็นสาวสวย แต่ภารกิจค้นหาวายร้ายไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น แม้เขาจะเคยเป็นวายร้ายมาก่อน แต่ตอนนี้มีหน้าทีพ่อที่ต้องดูแลลูกสาวอีกด้วย ภารกิจมันจึงพัลวนพัลเกอิรุงตุงนังไปหมด แถมยังจะลูกสมุนตัวเหลืองที่คอยจะแย่งซีนเขาตลอดเวลาอีกด้วย
ไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลยสำหรับมิสเตอร์แสบอย่าง “กรู”
รีวิว despicable me 2
หลังจากชม “มิสเตอร์แสบ ร้ายเกินพิกัด 2” ไปได้สักพัก สัมผัสได้ถึงความอารมณ์ดีและยียวนที่อบอวลอยู่ในหนัง เด็กน้อยอ้อนพ่อบ้าง กวนโอ๊ยพ่อบ้าง แต่ก็ยังอยู่ในอารมณ์ของความรักในครอบครัว เหล่ามินเนี่ยน (Minions) พวกนั้นต่างหากที่สร้างเสียงหัวเราะได้ตลอดเวลา กับความบ้า-เพี้ยน-ป่วนของมัน น่ารักและฮาจนไม่อาจจะหาคำบรรยาย ถึงกระนั้น เรื่องราวก็ยังคงดำเนินไปไม่มีหยุด ไม่มีพักเล่นมุขอะไรเพลินจนเกินเวลาแต่อย่างใด
ถ้าเกิดวันนี้ คุณอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่ ปวดหัวกับเรื่องราวต่างๆ ในชีวิต มันคงถึงเวลาแล้วล่ะ ที่จะไปพักสมองพักหัวใจบ้าง ลองแนะนำหนังแอนิเมชั่นอารมณ์ดีไม่มีพิษภัยเรื่องนี้ให้ตัวเองดูสิครับ แล้วจะอารมณ์ดีออกมานอกโรงเลยแหละ!
โอเคค่ะสรุปเราชอบภาคนี้สุด555
ภาคนี้เป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของตัวละครอย่าง ลูซี่ ซึ่งเราชอบเธอมาก ในภาคนี้เนื้อเรื่องก็คือ กรู จากวายร้ายเดิมที่ร้ายขนาดขโมยดวงจันทร์มาแล้ว มาในภาคนี้ เขาเลิกทำอะไรร้ายๆและพยายามหันมาเป็นพ่อที่ดี แต่แล้วเขาก็ต้องไปพัวพันกับเรื่องร้ายๆอีก คราวนี้เขาไม่ได้เป็นคนทำ แต่ต้องเป็นคนสืบหาตัวคนร้ายโดยทำงานกับคู่หูอย่างลูซี่
ภาคนี้ยังคงความสนุก ภาพสวย เพลงดี อย่างเพลงที่โคตรดังไปเลยอย่าง Happy ก็ในเรื่องนี้นี่แหละ แล้วเรารู้สึกว่าองค์ประกอบหลายๆอย่างในเรื่องดีกว่าภาคแรกด้วย ถึงสเกลมันไม่ได้ใหญ่ขนาดขโมยดวงจันทร์ แต่เรารู้สึกฉากและสถานการณ์ที่ตัวละครต้องไปเจอมันดูแฟนตาซี เว่อวังดี555 ซึ่งพอมันเว่อวังอลังการอยู่เหนือเหตุผลก็ยิ่งทำให้เราเอนจอยมากขึ้นไปอีก5555
เราชอบภาคนี้หลายๆอย่างเลยแหละ ทั้งตัวละครหลายตัวที่อยู่ในเรื่องที่ดูดี ดูเด่น คือมีอิมแพคที่ทำให้คนจดจำได้ หรือเนื้อเรื่องที่ถึงแม้ไม่ได้มีอะไรมากแต่ก็สนุก แค่ได้ดูการพัฒนาความสัมพันธ์ของตัวละครก็แฮปปี้แล้ว เพราะมันไปเรื่อยๆกับหนัง ถึงบทเรื่องแผนการจะไม่ได้ซับซ้อน ไม่ได้ว้าว แต่ก็ดูได้เพลินๆดี ยิ่งในภาคนี้เหล่ามินเนี่ยนยิ่งเด่นขึ้นกว่าเดิมอีก หลายๆคนก็อาจจะคุ้นมินเนี่ยนเวอร์ชั่นม่วงจากเกม(อย่างเช่นเรา) พอไปดูในเรื่องแล้วเอ้อ ดีเหมือนกัน ความคิดที่ใส่เข้ามาเข้าท่าเลย แล้วเอาของที่อยู่ตอนต้นมาแทรกไว้ในเรื่องเรื่อยๆ
สรุปแล้วภาคนี้ยังคงความดีงามและสนุกขึ้นสำหรับเราด้วยซ้ำ ตัวละครมากขึ้นเลยมีการเกลี่ยบทมากขึ้นทำให้หนังมีสีสันเพิ่มขึ้น ตัวละครทุกตัวสมบูรณ์ แบบไม่ได้มาแบบไม่รู้มาทำไมแต่มาเพื่อสร้างสีสันโดยแท้จริง ทำให้โดยรวมหนังเรื่องนี้สำหรับเราเป็นภาคที่สนุก ฉากในเรื่องหลายฉากสวยมาก เพลงนี่ไม่ต้องพูดถึง ดังระเบิดระเบ้อ ตัวละครที่ก็รักเลย สรุปแล้วดีค่ะ ไปดูเอาสนุก5555
ความรู้สึกหลังดู
ฉันไปดูหนังเรื่องนี้เมื่อเช้าและพบว่ามันสนุกมาก ผมจำคห.1ไม่ได้จริงๆ เลยเปรียบเทียบไม่ได้ Despicable Me 2 เป็นภาพยนตร์ที่ดำเนินเรื่องอย่างรวดเร็ว ตลก และให้ความรู้สึกที่ดีที่ทำให้คุณเพลิดเพลินได้ตั้งแต่นาทีแรกจนถึงนาทีสุดท้าย จังหวะของหนังดำเนินไปอย่างสวยงามและรักษาความสนใจของผู้ชมได้เป็นอย่างดี มีช่วงเวลาฮาๆ มากมาย มีทั้งอารมณ์ขันเด็กและอารมณ์ขันสำหรับผู้ใหญ่ ได้
ตัวละครหลักกรู (ให้เสียงโดยสตีฟ คาเรล)น่ารักและตลกดี อย่างไรก็ตาม มินเนี่ยนเป็นนักแสดงหลัก พวกเขาทำให้ฉันหัวเราะได้หลายครั้งในระหว่างภาพยนตร์ ภาษาที่สร้างขึ้นสำหรับมินเนี่ยนทำได้ดีมาก เนื่องจากพวกมันพูดในภาษาสมมติ
แต่คุณสามารถรวบรวมสิ่งที่พวกเขาพูดได้เสมอ ฉันพบว่าภาพนั้นน่าประทับใจมาก มันมีสีสันและจินตนาการมาก ฉากแอคชั่นเราก็ทำได้ดีมาก ขอแนะนำให้ดูสิ่งนี้อย่างแน่นอนไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ ฉันอายุ 22 และชอบหนังเรื่องนี้มาก ไม่ใช่แค่สำหรับเด็กเท่านั้น!
ฉันเห็น Despicable Me 2 ในโรงภาพยนตร์ และเมื่อฉันจากไป ฉันไม่ชอบมันมากขนาดนั้น ถ้าฉันไม่ไปดูหนังในครั้งแรกฉันก็ไม่น่าจะเปลี่ยนความคิดเห็นของฉันในมุมมองที่ตามมา ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนึ่งในข้อยกเว้นที่หายาก
ฉันมีเหตุผล ‘บางที’ หลายประการที่ไม่ชอบมันในครั้งแรกตั้งแต่สปอยล์ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ ไม่ว่าที่นี่หรือที่นั่น ฉันตัดสินใจที่จะเห็นมันเพียงเพื่อผ่านเวลาหลังจากวันอันเหน็ดเหนื่อยที่วิทยาลัยแล้วตามด้วยการทำงาน และฉันก็ปลิวไป แล้วฉันก็เห็นมันอีกครั้งเมื่อวานนี้และมันก็ดียิ่งขึ้นไปอีก
กระนั้นมีเป้าหมายตั้งแต่เริ่มต้น เป็นความบันเทิงในครอบครัวเข้าและออก และความบันเทิงในครอบครัวที่ยอดเยี่ยม เป็นความเฉลียวฉลาดร่วมสมัยควบคู่ไปกับการ์ตูนแฟนตาซีที่ตลกขบขันเพื่อสร้างคุณลักษณะที่สนุกสนานและน่าตื่นเต้นมาก มันเป็นคุณสมบัติแอนิเมชั่นเรื่องแรกในระยะเวลานานที่จะย้ายออกจากแอนิเมชั่นที่จริงจังหรือเต็มไปด้วยอารมณ์
และมุ่งเป้าไปที่ความรู้สึกที่ไม่สมจริงและความสนุกสนานของการ์ตูนในสมัยก่อน นั่นเป็นสิ่งที่ดีเพราะรู้สึกเหมือนมีอะไรใหม่และในกรณีนี้สิ่งใหม่ก็ยอดเยี่ยม ฉันชอบแอนิเมชั่นที่เต็มไปด้วยอารมณ์ แต่บางครั้งคุณก็ต้องยิ้มและหัวเราะและหัวเราะให้มากขึ้นด้วยการแสดงตลกตลกบ้าๆ บอๆ และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ทำให้ได้ แอนิเมชั่นมีสีสันและน่าดึงดูดใจ ตาน่ารักด้วยความน่ารัก
ซึ่งใครก็ตามที่จินตนาการถึงสมุนจะต้องได้รับเหรียญรางวัล พวกเขาน่ารักที่สุด น่ารักที่สุด หวานที่สุด หัวเราะและรอยยิ้มที่บริสุทธิ์ที่สุด กระตุ้นให้เกิดการสร้างสรรค์แอนิเมชั่นที่สง่างามในระยะเวลาอันยาวนาน พวกเขาทำให้ฉันหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและยิ้มตลอดทั้งเรื่องจนแก้มของฉันเจ็บและฉันก็รู้สึกมีความสุขอย่างแท้จริง พวกมันสนุกและน่าทึ่ง โอ้และพวกเขาก็ร้องเพลงอย่างสนุกสนาน
ผู้โพสต์ภาพยนตร์กล่าวว่าเป็นสโลแกน “The Spy who Lover Her” การอ้างอิงที่ชัดเจนของภาพยนตร์เจมส์บอนด์เรื่อง The Spy Who Loved Me เห็นได้ชัดว่าการจารกรรมและความบ้าคลั่งของสายลับถูกโยนเข้ามาเพื่อสร้างเรื่องราวที่น่าพอใจ เรื่องราวที่ในความเป็นจริงรู้สึก เหมือนหนังเจมส์ บอนด์ที่เกินจริงในเวอร์ชั่นการ์ตูนในยุค 70 และ 80
กรูเป็นพ่อที่วิเศษจริงๆ และความสัมพันธ์ของเขากับสาวๆ ก็เป็นสิ่งที่มีค่ามาก ฉันชอบวิธีการสำรวจพลวัตของครอบครัวในภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ค่อยมีภาพยนตร์ของเด็กบุญธรรมที่เข้ามาเป็นพลวัตของครอบครัวใหม่ ครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นไดนามิกแบบนั้นคือที่ทาร์ซานในปี 1999 ก่อนที่จะเห็นมันอีกครั้งในพรีเควลของภาพยนตร์เรื่องนี้ สาว ๆ ยอดเยี่ยมมากในภาพยนตร์เรื่องนี้ แอกเนสผู้น่ารักอย่างปรารถนาที่จะมีแม่และกรูเห็นสิ่งนั้น
และเขาก็เห็นว่ามันทำให้เธอเสียใจ กรูยังเหงาและออกไปสู่โลกแห่งการออกเดท ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าขำและเซอร์ไพรส์แสนหวาน เจ้าหน้าที่ Lucy Wilde เล่นสำนวนได้ดีเพราะเธอมีความสนุกสนานมากมาย เป็นเพียงตัวละครที่ยอดเยี่ยมที่เพิ่มความตลกขบขันและความตื่นเต้นให้กับทุกสิ่ง เธอดูแปลกไปในทางที่ดีที่สุด แหวกแนว ตลก
