รีวิว Dr.Seuss The Lorax 2012
โปรเจคท์แอนิเมชั่นใหม่ล่าสุด ในระบบ 3D-CGI Dr. Seuss’ The Lorax ซึ่งดัดแปลงมาจากนิทานแสนคลาสสิคของ ดร.ซูส ซึ่งเป็นเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตในผืนป่าที่ต้องแบ่งปันพลังแห่งความหวังด้วยกัน การผจญภัยที่ชวนคุณติดตามเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ออกเดินทางเพื่อไปค้นหาสิ่ง ๆ หนึ่งที่จะ
ช่วยให้เขาสามารถเอาชนะใจสาวน้อยที่เขาหลงรัก เพื่อที่จะได้มาเพื่อเจ้าตัวช่วยสิ่งนั้น เขาจะต้องตามหาเรื่องราวของ “โลแร็กซ์” สิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนจะน่ากลัวและน่ารักในตัวเดียวกัน เจ้าโลแร็กซ์นี้มีหน้าที่เป็นผู้ปกป้องอาณาจักรของเขา อนิเมะ
หลังจากเห็นตัวอย่างเป็นครั้งแรกเมื่อปลายปีที่แล้ว ก็รู้สึกเนื้อเต้น และ มีความรู้สึกว่านี้เป็นอนิเมชั่นที่อยากดูที่สุดของปี 2012 นี้ เพราะหนังมีการการันตีมาจากผู้สร้าง Despicable Me และเรื่องราวเกี่ยวกับการรักษ์โลก แต่พอตัวหนังฉายจริงๆแล้วคำวิจารณ์กลับออกมาไม่ค่อยดีเท่าที่ควรจากเว็บ
มะเขือเน่านั้นเองโปรเจคท์แอนิเมชั่นใหม่ล่าสุด ในระบบ 3D-CGI Dr. Seuss’ The Lorax ซึ่งดัดแปลงมาจากนิทานแสนคลาสสิคของ ดร.ซูส ซึ่งเป็นเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตในผืนป่าที่ต้องแบ่งปันพลังแห่งความหวังด้วยกัน การผจญภัยที่ชวนคุณติดตามเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ออกเดินทางเพื่อไปค้น
หาสิ่งๆหนึ่งที่จะช่วยให้เขาสามารถเอาชนะใจสาวน้อยที่เขาหลงรัก เพื่อที่จะได้มาเพื่อเจ้าตัวช่วยสิ่งนั้น เขาจะต้องตามหาเรื่องราวของ “โลแร็กซ์” สิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนจะน่ากลัวและน่ารักในตัวเดียวกัน เจ้าโลแร็กซ์นี้มีหน้าที่เป็นผู้ปกป้องอาณาจักรของเขา และเพื่อพิชิตใจสาวสวยของ เท็ด นั้นเขาจึงต้องออกตามล่าเมล็ดพืชเมล็ดสุดท้ายมาปลูกให้ได้
The Lorax กำกับการแสดงโดย คริส โรโนด์ และ ไคล์ บาน่า ซึ่งผู้กำกับรายแรกนั้นมีดีกรีเป็นถึงผู้กำกับหนังอนิเมชั่นชื่อดัง ที่กวาดทั้งเงิน และ คำวิจารณ์ ไปเมื่อปี 2010 กับกับแจ้งเกิดเจ้าตัวเหลืองจอมกวนใน Despicable Me ส่วนรายที่ 2 นั้นคือคู่หูของผู้กำกับรายแรก เพราะเขาเป็นผู้กำกับที่
ช่วยสร้างหนังสั้นตอนพิเศษให้กับ Despicable Me ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Banana และอีกมากมาย โดยถ้าหากคุณรู้จักกับ ดร.ซูส คุณก็จะรู้ว่านิทานของ ดร.ซูส นั้นมีความหนาอยู่เพียงแค่ 10-15 หน้าเท่านั้น เพราะฉะนั้นอย่าตกใจถ้าหาก The Lorax จะยาวเกินนิทานไปบ้าง เพราะที่ยาวเกินๆมา
ทีมงานก็ได้ปรุงแต่งเข้าไปนั้นแหละครับ โดยสำหรับ The Lorax นั้นเป็นอนิเมชั่นที่ในเมืองไทยเรานั้นได้เข้าฉายเฉพาะในระบบ 3D เท่านั้น เพราะฉะนั้นบ้านเราจะไม่มีแบบธรรมดาให้ดูกัน
ซึ่งในด้านระบบ 3D ของ The Lorax นั้นก็ยังถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐานหนังอนิเมชั่น 3D ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเห็น ความลึก ความตื้น หรือหนาบางอย่างชัดเจนมากนัก แต่ว่าในหลายๆฉากของหนังที่พยายามนำสิ่งของมาทะลุจอ ทะลุตา ของผู้ชมนั้นก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่มองออกอย่าง
ชัดเจน และเมื่อผสมเข้ากับการที่ 2 คู่หูผู้กำกับนั้นทำสีสันของอนิเมชั่นเรื่องนี้ออกมาได้ค่อนข้าง สดใส และ แสบตา เพราะฉะนั้นสำหรับ 3D ของ The Lorax จึงออกมาโดยรวมค่อนข้างโอเคอยู่ แต่น่าเสียดายที่ตัวหนังอนิเมชั่นเรื่องนี้มีความยาวเพียง 86 นาทีเท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าใครคิดว่าไม่คุ้มกับ 200 ที่เสียไปก็ปล่อยผ่านได้
รีวิว Dr.Seuss The Lorax 2012
โดยถ้าหากเรามามองกันที่ด้านเนื้อเรื่องของ The Lorax ในความเห็นของผมก็ต้องขอบอกว่า ค่อนข้างน่าผิดหวัง เพราะมันน่าผิดหวังตรงที่ 2 ผู้กำกับนั้นเล่น ยัดเยียด เนื้อหาและสาระ ของเรื่องราวประเด็นรักษ์โลกเข้ามาแบบโต้งๆจนไม่สามารถผสมผสานไปกับตัวเนื้อหาของเรื่องได้ดีมากนัก
ผลลัพธ์ของหนังที่ออกมามันจึงกลายเป็นอนิเมชั่นที่มีเนื้อหาค่อนข้างดี แต่ผู้กำกับนั้นไม่รู้ว่าจะถ่ายทอดมันออกมาอย่างไรเท่านั้นเอง แต่อย่างไรก็ตามก็ถือว่ายังดี ที่ตัวหนังอนิเมชั่นเรื่องนี้ สามารถหาสิ่งมาทดแทนข้อด้อยในด้านของเนื้อหาได้นั้นคือด้านของ ความสนุก ในตัวอนิเมชั่น ที่ใน The Lorax นั้นเน้น มิวสิเคิล เป็นหลัก
ตัวหนังอนิเมชั่นเรื่องนี้จึงออกมาเพลิดเพลินกว่าที่คิด เพราะตัวหนังไม่ได้ดำเนินเรื่องไปแบบ ปล่อยมุกตลกๆ แล้วก็คุยๆๆอย่างเดียว แต่ระหว่างนั้นมีใส่ฉากอารมณ์ความเป็น มิวสิเคิล เข้ามาด้วย และแต่ละเพลงที่หนังเลือกใช้นั้นก็แต่งใหม่ และค่อนข้างเพราะเอามากๆที่เดียว ซึ่งในด้านของ มุก
ตลก ของหนังก็ยังถือว่าออกมาได้ค่อนข้างโอเค ถึงแม้ไม่ก๊ากเท่า Despicable Me ก็ตาม เพราะฉะนั้นโดยรวมถ้าถามผมว่าด้านของ ความสนุก ในตัวหนังสามารถทดแทนกับข้อด้อยเกี่ยวกับ สาระ ของตัวหนังได้หรือไม่ ก็ต้องตอบว่า ได้ อย่างแน่นอนหล่ะ //
ป.ล. สำหรับ The Lorax เป็นอนิเมชั่นที่เลือกไม่ถูกเลยจริงๆว่าจะดูพากย์ไทยที่ เต้ย จรินพร พากย์ หรือว่า ซาวน์แทรค ที่ เทเลอร์ สวิฟท์ พากย์ดีหนอ เพราะเสียงของสาว 2 คนนี้หวานไม่แพ้กัน
The Lorax ถือว่าเป็นหนังอนิเมชั่น 3D ที่ในระบบ 3D ของหนังนั้นออกมาได้ดีตามมาตรฐานทั่วๆไป ส่วนในด้านตัวหนังก็ออกมาในรูปแบบ เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี อย่างแน่นอน เพราะมันผสมผสานความเป็น มิวสิเคิล และ มุกตลกฮาๆเข้าไปด้วย จะเสียอย่างเดียวก็ต้อง สาระ และ ประเด็น ของหนังที่ยัดเยียดเกินไป อนิเมะออนไลน์
ความรู้สึกหลังดู
The Lorax (หรือที่รู้จักกันในชื่อ Dr.Seuss ‘The Lorax)เป็นภาพยนตร์คอมเมดี้แนวมิวสิคัลแอนิเมชั่นคอมเมดี้ของอเมริกาปี 2012 ที่ผลิตโดย Illumination Entertainment และสร้างจากหนังสือเด็กของDr.Seuss ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัวโดย Universal Picturesเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2012
ซึ่งเป็นวันเกิดครบรอบ108 ปีของ Seuss การดัดแปลงครั้งที่สองของหนังสือเล่มนี้ (ต่อจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นพิเศษทางโทรทัศน์ปี 1972) ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นจากหนังสือโดยขยายเรื่องราวของ Lorax และ Ted ซึ่งเป็นเด็กชายที่ไม่มีชื่อก่อนหน้านี้ที่ไปเยี่ยม Once-ler นักแสดง
ประกอบไปด้วย Danny DeVito ในฐานะ Lorax, Ed Helmsรับบท Once-ler และ Zac Efron รับบท Ted ตัวละครใหม่ที่นำมาใช้ในภาพยนตร์ ได้แก่ Audrey, Ted(พากย์เสียงโดย Taylor Swift), Aloysius O’Hare, บารอนอากาศผู้ชั่วร้าย (พากย์เสียงโดย Rob Riggle),ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำวิจารณ์ที่หลากหลายจากนักวิจารณ์แต่ทำรายได้ทั่วโลก 348.8 ล้านดอลลาร์ด้วยงบประมาณ 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดูอนิเมะออนไลน์
ในเมืองแห่งนั้น ก็คงไม่ต่างอะไรกับโลกใบใหญ่ของเรา เดิมเราก็เคยมีชีวิตที่อยู่กับธรรมชาติ ก่อนที่มนุษย์จะใช้ระบบความคิดแบบนายทุน ที่ 1. ต้องการสร้างสิ่งใหม่ที่เปลี่ยนแปลงโลก ยังไม่มีใครทำขึ้นมาบนโลก 2. ค้าขายมัน หากินกับมัน รวยกับมัน ควบคุมทุกสิ่งในกำมือเพียงเพื่อให้ตัวเอง
ยังคงสภาพความมั่งมี 3. ธุรกิจต้องขยายและยิ่งใหญ่ขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงผลลัพธ์ด้านลบสุดท้ายแล้ว เราก็ได้แต่โหยหาอดีตที่มันอาจยากเหลือเกินที่จะนำมาฟื้นคืนกลับมา
ชื่อภาพยนตร์: Dr. Seuss’ The Lorax / ดร.ซีอุส เดอะ โลแรกซ์
ผู้กำกับภาพยนตร์: Chris Renaud, Kyle Balda
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Ken Daurio (screenplay), Dr. Seuss (book), Cinco Paul (screenplay)
นักแสดง(พากย์): Danny DeVito, Zac Efron, Taylor Swift, Ed Helms, Rob Riggle, Betty White, Jenny Slate
แนว/ประเภท: Animation, Family, Fantasy
เรท: ไทย/ท, USA/PG
ความยาว: 86 นาที
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Illumination Entertainment, Universal Pictures
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 22 มีนาคม 2555