รีวิว Eden of the East

ในยุคสมัยใหม่ของประเทศญี่ปุ่นที่ระบบสมองกลอัจฉริยะมีร่วมกับการสร้างประเทศ บุคคลลึกลับในนามของ “Mr.Outsider” ได้ทำการคัดเลือกเหล่าพระผู้ช่วยทั้ง 12 คนขึ้นมา ในนามของ “Selecao” เพื่อทำหน้าที่ในการจัดการกับเงินจำนวนมหาศาลผ่านระบบ Juiz

ที่ซึ่งทุกคนสามารถนำไปใช้อะไรก็ได้ตามใจ แต่ต้องก่อเกิดประโยชน์ต่อการกอบกู้และพัฒนาประเทศมากที่สุด เรื่องราวของ “ทาคิซาว่า อากิระ” Selecao หมายเลข 9 ที่เลือกจะลบความทรงจำของตนเองเพื่อภารกิจอะไรบางอย่าง ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ก่อการร้ายครั้งใหญ่ของญี่ปุ่น

ชื่ออังกฤษ : Eden of The East
ชื่อญี่ปุ่น : 東のエデン
ชื่อไทย : อีเดน ออฟ ดิ อีสท์
แนว : โรแมนติก, ระทึกขวัญ, จิตวิทยา
ผู้กำกับ : เค็นจิ คะมิยะมะ
ผลิตโดย : Production I.G
ฉายทาง : ฟูจิ ทีวี (noitaminA)
ฉายครั้งแรก : 9 เมษายน – 25 พฤษภาคม 2552
จำนวนตอน : 11 ตอน

รีวิวอนิเมะ

เรื่องราวเริ่มต้นจาก “โมริมิ ซากิ” เด็กสาวที่อยู่ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวในอเมริกา เพื่อฉลองจบการศึกษาของเธอ และบังเอิญได้พบกับเด็กหนุ่มลึกลับสภาพเปลือยล่อนจ้อนที่เข้ามาช่วยเหลือ ขณะเธอกำลังมีปัญหากับตำรวจหน้าทำเนียบขาว ณ วอชิงตัน ดี.ซี.

โดยเด็กหนุ่มดังกล่าว สูญเสียความทรงจำของตนเอง มีเพียงปืนกับโทรศัพท์มือถือติดตัว พร้อมกับยอดเงินที่เหลืออยู่ประมาณ 8,200 ล้านเยน และจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เขาและเธอได้ร่วมเดินทางด้วยกัน

ด้วยการสืบร่องรอยของตนเอง ผ่านผู้ช่วย Juiz จากโทรศัพท์มือถือ (Noblesse Oblige) ที่เขามีอยู่ ซึ่งมาพร้อมกับการพบเจอกันโดยบังเอิญกับตำรวจนายหนึ่งที่มีชื่อว่า “คนโด ยูเซ” ทำให้เด็กหนุ่มค้นพบเงื่อนงำว่าตนเองอาจคือ “ทาคิซาว่า อากิระ” ผู้ที่เลือกลบความทรงจำของตนเอง

เพื่อทำภารกิจอะไรบางอย่างของ “Selecao หมายเลข 9” ซึ่งเป็นหนึ่งใน Selecao ทั้ง 12 คน ที่ได้รับหน้าที่ในจัดการกับยอดเงิน หนึ่งหมื่นล้านเยน แบบใดก็ได้ ผ่านการหักค่าใช้จ่ายจากระบบ Juiz เพื่อนำมาใช้ในการกอบกู้และช่วยเหลือพัฒนาประเทศญี่ปุ่น

โดยผู้ที่ถูกคัดเลือกจากหนึ่งใน 12 คนนี้จะถูกเรียกว่า “Supporter” ซึ่งจะมีหน้าที่ในการตรวจสอบการใช้เงินของทุกคนที่เหลือ โดยบุคคลดังกล่าวจะมีเพียง Mr.Outsider ซึ่งคือเจ้าของและผู้ที่เริ่มระบบของ Selecao คนเดียวเท่านั้นที่จะรู้ว่าเขาคือใครใน 12 คนนี้

เรื่องราวดำเนินต่อไปเมื่อ ทาคิซาว่า คิดว่าตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ก่อการร้ายที่ถูกตั้งชื่อว่า “วันจันทร์ที่เผอเรอ” หรือ “Careless Monday” จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจากผลของมิสไซล์จำนวน 10 ลูก ที่ระเบิดกลางเมืองโตเกียวในวันที่ 22 พฤศจิกายน คศ. 2010

ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับการพบกันครั้งแรกของเขาและโมริมิ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง เพื่อตามหาความเป็นมาของเรื่องราวทั้งหมดจาก Selecao คนอื่นๆ ที่เหลือ สู่การพบเจอกับนายตำรวจ Selecao หมายเลข 4 ที่จบลงไม่สวย และนายศัลยแพทย์ประสาท Selecao หมายเลข 5 ที่ทุ่มเทเพื่อสถาบันทางการแพทย์ในอุดมคติจนต้องจบชีวิตลง

ทาคิซาว่า จะไขเงื่อนงำปริศนาของตนเองได้หรือไม่ การเดินทางเพื่อตามหา Selecao ที่เหลือจะต้องพบเจอกับอะไร? และท้ายที่สุดแล้ว เขาจะอยู่จนจบเดิมพันที่แลกมาด้วยชีวิตนี้ได้หรือไม่นั้น? หาติดตามชมกันได้แล้ววันนี้.

รีวิว Eden of the East

ด้วยความโดดเด่นในหลายๆ ส่วนของมัน ผลงานในสังกัด Production I.G. สตูดิโอที่หลายคนเชื่อมั่นในฝีมือและคุณภาพ เพราะเคยสร้างงานที่เป็นที่จดจำมาหลายเรื่อง โดยเฉพาะ Ghost in the Shell, The Matrix, xxxHolic, คุโรมาตี้, The End of Evangelion และ Blood+

อีกทั้งยังเป็นการผนึกพลังกันของสุดยอดฝีมืออย่าง คามิยาม่า เคนจิ ผู้กำกับที่เคยฝากผลงานเด่นไว้อย่าง Ghost in the shell : Stand Alone Complex ก็ยกขบวนทีมงานมาร่วมกันสร้างอะนิเมะเรื่องนี้ แล้วก็มี อ.อุมิโนะ จิกะ ที่มาดูเรื่องการออกแบบตัวละคร ทำให้ Eden of the East กลายเป็นที่จับตามองของคออะนิเมะค่อนข้างมาก

เรื่องราวมันเริ่มต้นขึ้นในวันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2010 เกิดเหตุมิสไซล์จำนวน 10 ลูกถล่มญี่ปุ่นอย่างไม่ทราบที่มา และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือล้มตาย มีเพียงข่าวลือว่าเป็นฝีมือของผู้ก่อการร้าย มันได้ถูกตั้งชื่อให้เป็น “Careless Monday”

มันเป็นวันจันทร์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องก็แล้วกัน วันเวลาผ่านไปโดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกเลย ฝันร้ายวันจันทร์ก็เริ่มๆ จะลดความน่ากลัวลงไป แต่เหตุการณ์กลับหาได้เป็นอย่างที่พวกเขาคิดไม่

รีวิวอนิเมะออนไลน์

รีวิว Eden of the East

ความรู้สึกหลังดู

3 เดือนต่อมา สาวน้อย ซากิ โมริมิ ที่เพิ่งจบการศึกษาเดินทางไปเที่ยวอเมริกาเพื่อฉลองเรียนจบกับเพื่อนๆ แต่ก่อนกลับ เธอเลือกที่จะแยกไปเยือนทำเนียบขาวคนเดียว ด้วยความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองของตนที่กำลังถูกภัยร้ายที่ไม่รู้วันคืออะไรคุกคาม เธอตั้งใจปาก้อนหินเข้าไปในทำเนียบขาว มันคงเป็นวิธีแก้เคล็ดของคนญี่ปุ่นเขาล่ะมั้ง

การทำผิดกฏหมายครั้งนี้ได้รับการช่วยเหลือไว้ โดยหนุ่มรูปหล่อผู้ไม่ใส่เสื้อผ้าสักชิ้น ที่มาดึงดูดความสนใจของตำรวจเอาไว้ ผู้ชายที่ซากิคิดว่า เขาจะเป็นเจ้าชายที่เธอฝันไว้หรือเปล่าคนนั้น มีเพียงปืนสั้นกับมือถือหน้าตาประหลาดในมือ แต่กลับจำกระทั่งชื่อตัวเองยังไม่ได้ ด้วยความใจดี หรืออะไรก็แล้วแต่ เธอกลับให้เสื้อคลุมและผ้าพันคอกับเขาไป

แต่แล้ว ดูเหมือนโชคชะตาจะทำให้ซากิได้พบกับเจ้าชายที่ใฝ่หา ในที่สุด ทั้งสองคนก็ต้องกลับมาพบกันอีกครั้ง แล้วก็ได้เดินทางกลับญี่ปุ่นด้วยกัน

ชายแปลกหน้าที่ไม่รู้ว่าตนเองชื่ออะไร แต่กลับจำเรื่องราวอื่นๆ ได้หมด โดยเฉพาะเรื่อง “หนัง”

ดูอนิเมะออนไลน์

รีวิว Eden of the East

เขาได้พบว่า ห้องพักของตนมีอาวุธเต็มไปหมดจนต้องสงสัยว่าตนเองเป็นใครกันแน่ หลังจากโทรไปยังปลายสายที่เรียกตัวเองว่า Juiz เขาพบว่า ตนเองกำลังอยู่ในเกมอะไรสักอย่างหนึ่งที่มีผู้เล่น 12 คน ที่จะถูกเรียกว่า “เซเลเซา” (Seleção) แต่ละคนจะได้รับเงินหมื่นล้านเยนอยู่ในมือถือ ซึ่งจะใช้เงินทำอะไรก็ได้เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศญี่ปุ่นให้ดีขึ้นในแนวทางของตน การใช้เงินทุกครั้งจะต้องกระทำโดยการสั่งผ่าน Juiz คุณจะสั่งการอะไรก็ได้ ทางอีกฝั่งของสายจะรับไปแยกเป็นงานเล็กงานน้อย ทุกงานมีค่าใช้จ่ายจะมากน้อย จะถูกหักออกจากบัญชี

นอกจากนี้ เขายังพบว่า ตนเองมีพาสปอร์ตอยู่หลายใบ ชื่อหนึ่งที่เขาคิดว่าใช่ชื่อจริงของตัวเองก็คือ ทาคิซาว่า อากิระ จากการสอบถาม Juiz ทำให้เขาได้รู้ว่า เขาเป็นเซเลเซาหมายเลข 9 ที่ทำการลบความจำตัวเองส่วนหนึ่งไป แต่เหตุผลกลใดที่เขาเลือกจะลบมันนั้น ซึ่งเขาเองก็ต้องค้นหามันเช่นกัน

แต่เมื่อยิ่งค้นก็ยิ่งพบสิ่งที่แปลกประหลาดในการกระทำของตัวเขาเองก่อนลบความทรงจำ อากิระมีที่พักอาศัยเป็นห้างโทโยสึ คนบ้าอะไรจะซื้อห้างทั้งห้างมาเป็นของตัวเอง แถมยังเคยขัง NEET จำนวนสองหมื่นคนไว้ข้างในห้างนั้นด้วย

รีวิว Eden of the East

เรื่องราวการสืบค้นเสาะหาตัวตนของตัวเอง ที่มาพร้อมอำนาจสั่งการในมือ และพร้อมที่จะถูกเก็บได้ตลอดเวลา

เรื่องราวขยายวงไปเรื่อยๆ อากิระได้พบกับเซเลเซาอีกหลายคน แม้จะไม่ครบ แต่ก็พอจะเป็นเบาะแสที่ค้นไปถึงที่มาของเรื่องราวทั้งหมดได้ แต่ในช่วงของการค้นหานั้น ก็มีอีกเรื่องที่ทำให้คนดูอย่างเราๆ ได้รู้ว่า อะไรคือ

“Eden of the East”

ด้วยงานด้านภาพที่ดูสะอาดตา สีสวยคม ลายเส้นและแคแรกเตอร์ต่างๆ รวมเข้ากับเนื้อเรื่อง และการดำเนินเรื่องที่ทำเรื่องซับซ้อนให้จบลงได้ภายในเพียง 11 ตอน ต้องชมว่า ทีมงานนี้เยี่ยมยุทธ์จริงๆ ไม่พอ ผมจะได้รับรู้ข้อมูลมาเพิ่มเติมอีกว่า ทีมงานเขาเตรียมการกันไว้อย่างดี ว่าจะต้องมีการสร้างเรื่องราวต่อเนื่องไปถึงโปรเจ็คต์หนังโรงอีกด้วย ซึ่งหลายคนก็อาจจะได้ชมไปแล้วด้วยซ้ำ กับภาคต่อทั้งสอง The King of Eden และ Paradise Lost นั่นไง

นอกจากอะนิเมะเรื่องนี้จะเด่นในด้านภาพและเนื้อหาแล้ว ยังมีองค์ประกอบที่สมควรพูดถึงอย่างเพลงเปิด ที่ได้เพลง “Falling Down” ของศิลปินอังกฤษผู้โด่งดังอย่างโอเอซิส ส่วนเพลงปิดก็ได้เพลง “Futuristic Imagination” จากศิลปิน School Food Punishment ผสมเข้ากับไตเติ้ลที่สวยสดงดงาม เสริมให้อะนิเมะเรื่องนี้ดูสมบูรณ์แบบมากขึ้นไปอีกเท่าตัว

รีวิวการ์ตูนอนิเมะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *