รีวิว Hataraku Saibou เซลล์ขยันพันธุ์เดือด
วันนี้มีอนิเมะเจ๋ง ๆ ดูแล้วสนุกและยังได้ความรู้แบบแน่น ๆ อีกด้วยเคยรู้บ้างไหมว่าข้างในร่างกายของเรามีเซลล์จำนวน 37.2 ล้านล้านเซลล์ที่อยู่ในร่างกายของเราแล้วมันมีหน้าที่อะไรบ้างไหม? หลายคนคงผ่านการเรียนเรื่องร่างกายและเซลล์ที่โรงเรียนมาแล้วแต่ผมเชื่อว่าก็มีหลายคนที่ไม่เคยจำหรือจำไม่ได้เลย(ฮา)
แต่อนิเมะเรื่อง เซลล์ขยันพันธุ์เดือด ถ้าเพื่อน ๆ ได้ดูแล้วจะได้ความรู้พอสมควรเลยหละเข้าใจแบบไม่งงที่มาพร้อมกับความสนุก และเหล่าตัวละครน่ารักเรามารู้จักกับเซลล์และตัวละครในเรื่องกันเลยดีกว่าและผมจะแทรกความรู้ไปด้วยนิดหน่อยนะด้วยแต่อาจไม่ละเอียดเจาะลึกมาก มาเริ่มที่ตัวแรกกันเลย
บางทีก็เหนื่อยเหมือนกันนะเวลานั่งอ่านเรื่องเซลล์ในร่างกาย เช่น เรื่องภูมิคุ้มกันที่บางครั้งซับซ้อนและเยอะแยะไปหมด แต่จะเป็นยังไงถ้าตัวหนังสือในตำรากับภาพประกอบที่ดูไม่น่าดึงดูดเป็นที่สนใจขึ้นมาได้ ซึ่งอนิเมะเรื่องนี้จะเป็นอีกภาพหนึ่งของระบบในร่างกาย
โดยเน้นไปที่ระบบภูมิคุ้มกันเป็นหลัก มีการดัดแปลงทุกอย่างให้ดูเหมือนสังคมขนาดใหญ่ ให้ร่างกายคือเมือง เลือดคือแรงงานขนส่ง ภูมิคุ้มกันคือหน่วยรักษาความปลอดภัย และตำแหน่งอื่นตามหน้าที่นั้นๆ ทำให้สอดคล้องเหมือนคนเราใช้ชีวิตในประจำวัน
การดัดแปลงจากเซลล์เป็นตัวละครแบบคนทำให้ทุกอย่างดูเข้าใจง่ายขึ้นมาก เมื่อเทียบกับรูปร่างหน้าตาของจริงที่ไม่น่าดึงดูดเท่าไรนัก เช่น เม็ดเลือดให้แต่งกายสีแดงถือกล่องบรรจุออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซค์ มีหน้าที่ขนส่งไปตามเส้นเลือดและอวัยวะต่างๆ
เสมือนคนส่งของที่ต้องไปตามที่อยู่ ไม่ต่างกับไปรษณีย์ทำหน้าที่ส่งไปตามหน้าซอง หรือจะเม็ดเลือดขาวกับชุดทหารสีขาวทั้งตัว มีอาวุธถือมีดสั้นคอยไล่ฟันสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามา และตัวละครอื่นๆที่ดีไซน์ค่อนข้างดีมากทีเดียว
ด้วยความที่ตัวละครค่อนข้างเยอะ ซึ่งเป็นไปตามหน้าที่จริงของระบบต่างๆในร่างกาย ทำให้การอธิบายจึงกระชับให้พอเข้าใจง่าย แม้บางครั้งบางศัพท์จะมีความหมายเฉพาะอยู่บ้าง แต่โดยรวมไม่ทำให้ความยากนี้เป็นอุปสรรคต่อเนื้อเรื่อง ทุกตอนยังดูสนุก มีทั้งเสียงหัวเราะและซีเรียสไปในตัว
แต่ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นภายในร่างกายล้วนมีแต่ปัญหาต้องแก้อยู่ตลอดเวลา ยิ่งเม็ดเลือดขาวยิ่งงานหนัก ต้องคอยตรวจจับและฆ่าสิ่งแปลกปลอมตลอดเวลา กระนั้นงานหนักสุดเห็นจะเป็นเม็ดเลือดแดงที่ต้องขยันขนส่งอากาศและสารอาหารตลอดเวลา
ข้อสังเกตอย่างหนึ่งคือแต่ละตอนจะพูดถึงแบคทีเรีย ไวรัส หรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย มีบางตอนที่พูดถึงอาการของโรคหรือภาวะสูญเสียน้ำหรือเลือด ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากสภาพร่างกายของคนที่ไม่ปกติ แต่ในซีซั่นหน้าจะเสมือนภาคตรงกันข้ามหรือ
Hataraku Saibou BLACK ที่พูดถึงสุขภาพของคนที่ไม่ดูแลเอาใจใส่ ไม่ออกกำลังกาย กินเยอะ ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ มีความเครียด และอื่นๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เซลล์ต่างๆในร่างกายทำงานหนัก จะเป็นภาคที่หดหู่เพราะเจ้าของร่างกายไม่ยอมดูแลสุขภาพตัวเอง
ปล.ถ้ามองในแง่จริงจังจะพบว่าตลอดทั้งเรื่องมีความดาร์คตลอดเวลา การฆ่าฟันเกิดขึ้นทุกตอน แต่ละตอนแสดงถึงปัญหามากมายที่เข้ามาไม่รู้จบ เมื่อเห็นเช่นนี้จึงมองย้อนไปที่ตัวเองเวลาเกิดอะไรขึ้น พวกเซลล์พวกนี้ทำอะไรกันอยู่นะ
รีวิว Hataraku Saibou เซลล์ขยันพันธุ์เดือด
การดัดแปลงจากเซลล์เป็นตัวละครแบบคนทำให้ทุกอย่างดูเข้าใจง่ายขึ้นมาก เมื่อเทียบกับรูปร่างหน้าตาของจริงที่ไม่น่าดึงดูดเท่าไรนัก เช่น เม็ดเลือดให้แต่งกายสีแดงถือกล่องบรรจุออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซค์ มีหน้าที่ขนส่งไปตามเส้นเลือดและอวัยวะต่างๆ
เสมือนคนส่งของที่ต้องไปตามที่อยู่ ไม่ต่างกับไปรษณีย์ทำหน้าที่ส่งไปตามหน้าซอง หรือจะเม็ดเลือดขาวกับชุดทหารสีขาวทั้งตัว มีอาวุธถือมีดสั้นคอยไล่ฟันสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามา และตัวละครอื่นๆที่ดีไซน์ค่อนข้างดีมากทีเดียว
ด้วยความที่ตัวละครค่อนข้างเยอะ ซึ่งเป็นไปตามหน้าที่จริงของระบบต่างๆในร่างกาย ทำให้การอธิบายจึงกระชับให้พอเข้าใจง่าย แม้บางครั้งบางศัพท์จะมีความหมายเฉพาะอยู่บ้าง แต่โดยรวมไม่ทำให้ความยากนี้เป็นอุปสรรคต่อเนื้อเรื่อง ทุกตอนยังดูสนุก
มีทั้งเสียงหัวเราะและซีเรียสไปในตัว แต่ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นภายในร่างกายล้วนมีแต่ปัญหาต้องแก้อยู่ตลอดเวลา ยิ่งเม็ดเลือดขาวยิ่งงานหนัก ต้องคอยตรวจจับและฆ่าสิ่งแปลกปลอมตลอดเวลา กระนั้นงานหนักสุดเห็นจะเป็นเม็ดเลือดแดงที่ต้องขยันขนส่งอากาศและสารอาหารตลอดเวลา
ข้อสังเกตอย่างหนึ่งคือแต่ละตอนจะพูดถึงแบคทีเรีย ไวรัส หรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย มีบางตอนที่พูดถึงอาการของโรคหรือภาวะสูญเสียน้ำหรือเลือด ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากสภาพร่างกายของคนที่ไม่ปกติ แต่ในซีซั่นหน้าจะเสมือนภาคตรงกันข้ามหรือ
Hataraku Saibou BLACK ที่พูดถึงสุขภาพของคนที่ไม่ดูแลเอาใจใส่ ไม่ออกกำลังกาย กินเยอะ ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ มีความเครียด และอื่นๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เซลล์ต่างๆในร่างกายทำงานหนัก จะเป็นภาคที่หดหู่เพราะเจ้าของร่างกายไม่ยอมดูแลสุขภาพตัวเอง
ปล.ถ้ามองในแง่จริงจังจะพบว่าตลอดทั้งเรื่องมีความดาร์คตลอดเวลา การฆ่าฟันเกิดขึ้นทุกตอน แต่ละตอนแสดงถึงปัญหามากมายที่เข้ามาไม่รู้จบ เมื่อเห็นเช่นนี้จึงมองย้อนไปที่ตัวเองเวลาเกิดอะไรขึ้น พวกเซลล์พวกนี้ทำอะไรกันอยู่นะ
ความรู้สึกหลังดู
หนึ่งในเรื่องที่ผมดีใจทีได้เห็นฉายในไทยแบบถูกลิขสิทธิ์ก็คือ Hataraku Saibou หรือชื่อไทยคือ เซลล์ขยันพันธุ์เดือด ซึ่งสร้างกระแสได้ตั้งแต่อนิเมะซีซั่นแรกออกฉาย แต่รอบนี้กลับมาฉายแบบมีช่องทางให้ดูได้แบบถูกกฎหมายทาง IQIYI ก็น่าดีใจมากครับ เพราะจัดว่าเป็นอนิเมะที่มีคุณภาพดี แถมได้ความรู้ด้วย เพราะเป็นการเล่าเรื่องราวของส่วนประกอบของร่างกายเรา โดยจำลองให้ร่างกายเป็นเหมือนสังคมหนึ่ง ซึ่งแต่ละส่วนก็มีบทบาทหน้าที่ของตัวเอง ทำหน้าที่นั้นเพื่อให้สังคมเดินหน้าไปได้
ถ้าใครอายุเกินสามสิบ ก็น่าจะคุ้นกับการ์ตูนทีวีเรื่อง นิทานชีวิต ซึ่งเป็นการ์ตูนฝรั่งเศส (ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ) สอนเรื่องราวเกี่ยวกับระบบต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งเรื่องเซลล์ขยันพันธุ์เดือด ก็เหมือนกับเรื่องนี้แต่เป็นเวอร์ชั่นญี่ปุ่น ที่ทำออกมาให้ได้บรรยากาศแบบอนิเมะที่เราคุ้นเคยกันมาก ใส่เนื้อเรื่องและความสัมพันธ์ของตัวละครเข้าไป ทำให้ที่ญี่ปุ่นเองก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง กลายเป็นกระแสฮอตฮิต ขนาดมีข่าว เช่น คนทำข้อสอบชีววิทยาได้ เพราะว่าจำรายละเอียดจากอนิเมะได้ ส่วนบ้านเราก็ได้ตีพิมพ์มังงะออกขายด้วย
ความฮอตฮิตของเซลล์ขยันพันธุ์เดือด ก็ถึงขนาดที่ว่ามีทั้งเรื่องสปินออฟ หรือมังงะที่เอาโครงเรื่องคล้ายกันมาแต่เล่าอีกทางหนึ่ง เช่น Hataraku Saibou Black ภาคสายดาร์ค หรือ Hatarakanai Saibou เซลล์ไม่ขยัน รวมไปถึงหนังสือให้ความรู้สำหรับเด็กต่างๆ อีก เรียกได้ว่ากลายเป็นแฟรนไชส์ทำเงินไปโดยเรียบร้อย
ตัวผมเองก็เห็นเรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มตีพิมพ์ลงในนิตยสารมังงะ Morning แต่แรกแล้ว เพียงแต่ว่าก็ไม่ได้สนใจอ่าน เลยปล่อยผ่านไป จนกลายมาเป็นอนิเมะนี่ล่ะครับ ค่อยได้โอกาสดู และพอทราบแนวทางอยู่แล้วว่าเป็นเรื่องสายดาร์คในแง่ที่ว่า ถ้า Hataraku Saibou คือการเล่าเรื่องราวระบบการทำงานของร่างกาย กับเรื่องที่เราเจอได้บ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น เป็นหวัด จาม หรือเกิดบาดแผลแล้ว Hataraku Saibou Black คือเรื่องราวเมื่อเจ้าของร่างกายไม่ได้รักษาดูแลร่างกายอะไรดีนัก ทำให้ต้องเจออะไรต่อมิอะไร กลายเป็นภาระของร่างกายไปโดยปริยาย
เท่าที่ผมดูมา 5 ตอน ก็มีตั้งแต่ดื่มเหล้า เครียดจนผมร่วงเป็นหย่อม ร่วมเพศ ไปจนถึงได้รับเชื้อกามโรค เรียกได้ว่าต่างกับความใสๆ ของต้นฉบับไม่เบา แต่เขาก็เล่าออกมาได้ดีนะครับ คือในฐานะผู้ใหญ่แล้ว ดูแล้วก็ฮาได้เอาเรื่องเลย แล้วก็ทำให้เรารู้สึกรักร่างกายขึ้นมาอีกเยอะ อย่างตอนที่เล่าเรื่องการเมาเหล้า ผมเองที่ดูไปดื่มไป ก็เล่นเอาสะอึกได้เหมือนกัน
สิ่งที่ทำให้ผมสนใจภาคนี้ตั้งแต่ตอนแรกที่ได้ดูก็คือ การที่ใช้คำว่า Black ที่คงจะต้องการแสดงออกให้คนอ่านหรือดูเข้าใจได้ง่ายว่านี่คือด้านมืดนะ ไม่เหมือนภาคหลัก แต่ที่น่าสนใจคือ เมื่อได้ดูตอนแรกแล้ว ก็ได้คิดเพิ่มว่า Black ในที่นี้ คือการล้อเลียน Black Company รึเปล่า
Black Company (Black Kigyou) คือคำที่ได้ยินบ่อยในสังคมญี่ปุ่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากแต่เดิมที่ค่านิยมในสังคมญี่ปุ่นคือการทำงานแบบถวายตัวให้บริษัท แต่ปัจจุบันที่คนเริ่มมองเรื่อง Work Life Balance มากขึ้น ทำให้การทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำไม่ใช่ค่านิยมอีกต่อไปรวมถึงการที่ตั้งแต่ยุคฟองสบู่แตกมา การทำงานแบบอุทิศชีวิตให้บริษัทก็อาจจะไม่ได้ผลตอบแทนเช่นเคย กลายเป็นความซื่อสัตย์ที่ไม่ได้รับการตอบแทนเหมือนคนรุ่นบูมเมอร์ที่ผ่านมา
ทำให้บริษัทที่มีลักษณะของการบีบให้พนักงานทำงานหนัก ทำงานล่วงเวลาไม่จ่ายเงิน สภาพแวดล้อมการทำงานแย่ จะถูกเรียกว่า Black Company ซึ่งแต่ละปีก็มีบริษัทดังๆ ถูกประกาศว่าเป็น Black Company เป็นประจำ หลายเจ้าก็เป็นที่รู้จักของชาวไทยดี แต่เพื่อความสุขของผู้เขียน คงขอละไว้เท่านี้ ไปค้นเองได้ ไม่ยากหรอกครับ
ส่วนในภาค Black นี้ เราก็ตามตัวเอกที่เป็นเม็ดเลือดแดงหน้าใหม่ เพิ่งเริ่มทำงานในฐานะเม็ดเลือดแดงเป็นวันแรก ก็ได้รับการบรีฟงานจากบริษัท ก่อนออกไปทำงานจริง ตรงนี้ก็คือการแซะ Black Company ล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นการให้คนพูดหวานๆ มาบรีฟงาน มีการพูดถึง โครงการพัฒนาสภาพการทำงาน รวมไปถึงการเปิดวิดีโอแนะนำเพื่อนร่วมงานคนละสาย ที่บอกว่า เจอแล้วก็ให้ทักทาย บอกชื่อกันได้ เพราะอยากจะรู้จักกันให้ดี
แต่เมื่อไปหน้างาน เม็ดเลือดแดงของเราก็เจอกับนรกมาเยือน เพราะต้องเริ่มทำงานจริงแบบไม่มีช่วงโปร ทำงานหามรุ่งหามค่ำ รุ่นพี่ก็ได้แต่บอกว่า ก็ทำๆ ไปแบบไม่ต้องคิดอะไร จะสุขใจสุด ลืมตัวตนตัวเองไปซะ ไอ้เรื่องพัฒนาสภาพการทำงานน่ะอย่าไปหวัง แถมเฮียคนในวิดีโอ พอเจอตัวจริงแล้วแนะนำตัวไป ก็ด่ากลับว่า ใครจะไปมีเวลาจำวะ คลิปเก่าขนาดนั้นยังเอามาเปิดให้พนักงานใหม่ดูอีกเหรอ แต่ก็ค่อยๆ เล่าเหตุผลว่า แต่ก่อนมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่พอปัจจุบันคือสภาพการทำงานเปลี่ยนไปมาก ปัญหาเข้ามาตลอด เหมือนจะใบ้ว่าเป็นเพราะตัวเจ้าของร่างกายไม่ดูแลร่างกายนั่นเอง
ตอนแรกนี่คือการเอาสภาพการทำงานใน Black Company มายัดใส่เต็มๆ ราวกับเป็นการวิจารณ์บริษัทเหล่านี้ ผ่านตัวละคร ดูไปแล้วก็ทั้งตลก ทั้งเศร้าเมื่อคิดว่ามีคนต้องเจอสภาพการทำงานแบบนี้จริงๆ จนผมเองก็ดีใจว่ากล้าเขียนเรื่องแบบนี้ออกมา แต่เมื่อตอนสองมา ความรู้สึกนั้นก็ต้องชะงักลงไปเหมือนกัน