รีวิว Isekai Shokudou
ไลท์โนเวล Isekai Shokudou ผลงานของ Inuzuka Junpei และวาดภาพประกอบโดย Enami Katsumi ตีพิมพ์ภายใต้ตราของ Hero Bunko จัดจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์ Shufunotomo ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2015 วางจำหน่ายถึง 3 เล่มในช่วงมกราคม 2017 ยังไม่จบ เคยเขียนบนเว็บไซต์ ตั้งแต่มกราคม 2013 ถึงปัจจุบัน
ร้านอาหารสไตล์ตะวันตกเนโกยะ เป็นร้านอาหารที่เปิดมาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี ถึงจะบอกว่าเป็นร้านสไตล์ตะวันตกแต่เมนูภายในร้านนั้นมีหลากหลายไม่ใช่เพียงแค่อาหารตะวันตกเพียงเท่านั้น
ซึ่งภายใต้ฉากหน้าที่เป็นร้านอาหารธรรมดาร้านแห่งนี้ยังมีความลับอยู่อีกอย่างหนึ่งนั่นคือทุกๆวันเสาร์ประตูร้านแห่งนี้จะไปปรากฎตามพื้นที่ส่วนต่างๆของอีกโลกหนึ่ง และเมื่อเสียงของกระดิ่งประตูดังขึ้นจะปรากฎเหล่าลูกค้าพิเศษหลากหลายเผ่าพันธ์ที่เข้ามาเพื่อลิ้มรสอาหารแสนอร่อยที่ร้านเนโกะยะแห่งนี้
สำหรับคนในโลกปกตินี้แล้วเมนูอาหารในร้านอาหารแห่งนี้อาจเป็นเมนูทั่วๆไปแต่สำหรับต่างโลกแล้วมันกลับเป็นเมนูแสนแปลกใหม่ ซึ่งเมนูในร้านแห่งนี้จะน่ากินขนาดไหนนั้นสามารถติดตามดูได้ใน Isekai Shokudou ร้านอาหารต่างโลก ค่ะ ไม่แนะนำให้ดูตอนกลางคืนนะคะคงจะหิวกันน่าดู
นี่ก็เป็นอนิเมชั่นอีกเรื่องที่อยากจะแนะนำให้ดูจริงๆ ช่วงนี้ก็ทำงานค่อนข้างหนักอยู่ มาดูเรื่องนี้ก็ค่อนข้างช่วยผ่อนคลายได้เยอะเลย
ตอนนี้เรื่อง Resturant to Another World สามารถไปดูได้ที่ Netflix ได้ทุกตอนเลยนะครับ ลองไปดูก่อนก็ได้ หรือจะดูทีหลังเพราะตอนนี้อ่านรีวิวของผมกันก่อนนะครับ 55555 (ไม่มี Major Spoiler ใดๆ ทั้งสิ้นครับ)
ข้อมูลโดยรวม
ชื่อเรื่อง: Restaurant to Another World (異世界食堂)
ค่ายที่ทำอนิเมชั่น: Silver Link.
แนว: Comedy, Fantasy, Mystery
เนื้อเรื่องย่อ
เรื่องนี้จะพูดถึงร้านอาหารแหน่งหนึ่งชื่อว่า Kitty’s Foreign Cuisine ตั้งอยู่ใกล้ๆ ห้างสรรพสินค้าในแถบ Nekoya โดยร้านนี้จะเปิดอยู่ตลอดช่วงวันธรรมดา และวันหยุด
แต่ที่พิเศษสำหรับร้านนี้คือ ในทุกวันเสาร์ประตูของร้านอาหารร้านนี้จะเป็นประตูมิติไปยังโลกต่างๆ ที่จะมีลูกค้าจากต่างโลกเข้ามาใช้บริการ
ตัวละครหลัก
Tenshu เค้าเป็นเจ้าของร้านที่ดำเนินกิจการร้านอาหารต่อจากพ่อของเขา โดยเขาเป็นเชฟที่มีความสามารถด้านการทำอาหารมากๆ
Aletta เป็นผู้หญิงที่มาจากเผ่ามาร เธอตกงานแล้วก็ได้มาพบกับร้าน Kitty’s Foreign Cuisine และก็ได้มาเป็นพนักงานเสิร์ฟของร้านในเวลาต่อมา
Slice of Life ที่ดีอีกเรื่องนึง
เอาจริงๆถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องของอนิเมชั่นนี้จะค่อนข้างไปทางอาหารซะมากกว่า แต่ว่าในแต่ละตอนนั้นก็ได้เล่าเรื่องของลูกค้าต่างๆ ที่เข้ามาใช้บริการในร้าน และเหตุผลที่ชอบเมนูอาหารโปรดของพวกเขา
ซึ่งแนวของเรื่องนี้มันจะแตกต่างไปจากอนิเมชั่นอื่นๆเลย เพราะอนิเมชั่นแนวอาหารเนี่ยส่วนใหญ่จะเป็นแบบแข่งขันทำอาหาร กับคู่ต่อสู้กันแต่เรื่องนี้แตกต่างออกไปเลยโดยสิ้นเชิง ซึ่งก็ประทันใจมากๆ
นอกจากนั้นแล้วเราก็ได้สัมผัส Slice of Life ของลูกค้าแต่ละคนเพื่อที่จะหาคำตอบว่าทำไมเขาถึงกลับมาร้านนี้เป็นประจำ และเหตุผลที่ทำให้พวกเขาอยากให้พนักงานเสิร์ฟทำงานที่นี่
ตัวงาน
รายละเอียดของอนิเมชั่นเรื่องนี้ถือว่าดีมากๆ ไม่ผิดหวังเลย โดยเฉพาะภาพอาหารก็ออกแบบมาได้สวยมากกกก (ดีกว่าอาหารในชีวิตจริงด้วยมั้ง 555) ซึ่งก็ทำเราอยากกินได้ระดับนึง
ก็เป็นอนิเมชั่นเรื่องนึงที่ unique ออกไปจากเรื่องอื่นๆ เพราะรวบรวมระหว่าง Slice of Life และอาหารไว้ดีมาก ทำให้ Character Design ออกมาได้ดี กับอาหารที่ทำให้คุณรู้สึกหิวอย่างแน่นอน
รีวิว Isekai Shokudou
ตอนที่ Isekai Shokudou (Restaurant to Another World) ร้านอาหารต่างโลก ฉายจบไปเมื่อปี 2017 ก็ไม่คิดหรอกครับว่า มันจะกระแสแรงถึงขั้นได้ทำซีซัน 2 แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผมค่อนข้างชอบอนิเมเรื่องนี้ ก็เลยดีใจไม่น้อยที่จะได้ดูต่อ แม้จะมีความเปลี่ยนแปลงถึงขั้นเปลี่ยนสตูดิโอผู้ผลิตจาก Silver Link (ซีซัน 1) มาเป็ย OLM (ซีซัน 2) ก็ตาม
เนื้อหาของสองภาคแรกก็คล้ายๆ กัน ก็คือร้านอาหารตะวันตกเนโกยะ ทุกวันเสาร์จะเปิดให้บริการในต่างโลก โดยจะมีประตูมิติเกิดขึ้นตามที่ต่างๆ เพื่อให้คนในต่างโลกสามารถเข้ามาทานอาหารในร้านที่อยู่ในโลกของเราได้ แถมร้านเนโกยะยังขายอาหารให้กับชาวต่างโลกมาหลายสิบปีแล้วด้วย ในปัจจุบันร้านถูกสืบทอดมาถึงเจ้าของร้านคนปัจจุบัน (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าชื่ออะไร รู้แต่เป็นทายาทรุ่นหลานแล้ว) ซึ่งลูกค้าในร้านก็มีตั้งแต่ระดับมนุษย์สามัญ ไปจนถึงเอล์ฟ ปีศาจ มังกร ยันจอมมารกันเลยทีเดียว
พล็อตของภาคสองก็ยังคล้ายๆ ภาคแรก ก็คือจะมีลูกค้าหน้าใหม่มายังร้านเนโกยะ และรู้สึกตื่นตะลึงกับเมนูอาหารที่ไม่มีในโลกของตน จนกลายเป็นลูกค้าขาประจำ เนื้อหาก็จะวนๆ อยู่ประมาณนี้แหละ แต่ที่มันสนุกก็เพราะลูกค้าแต่ละคนล้วนแต่ไม่ใช่คนธรรมดา (บางทีก็ไม่ใช่คน) แถมภาคสองยังมีการสานต่อเรื่องราวของตัวละครจากภาคแรก และสายสัมพันธ์บางอย่างระหว่างตัวละครแต่ละตัว รวมถึงการไขปมปริศนาสำคัญในช่วงท้ายเรื่องด้วย (แต่หลายๆ คนน่าจะเดาออกกันแต่แรกอยู่แล้ว)
ซึ่งโดยส่วนตัวผมเองไม่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้ ที่ทราบมาว่าตัวนิยายยังออกไม่จบด้วย แต่ตัวอนิเมในซีซันสองก็ดูเหมือนว่าจะคลี่คลายปมและจบได้สมบูรณ์ดีแล้ว โดยเฉพาะสองตอนสุดท้ายที่ค่อนข้างเดินเรื่องแหวกแนวกว่าตอนอื่น (ที่มักจะเป็น Pattern ซ้ำๆ กัน) ก็เลยไม่คิดว่าจะมีภาคสามออกตามมาอีก แต่ถ้าจะสร้างออกมาต่อ ผมก็อยากดูนะ เพราะมันเป็นอนิเมที่ดูง่าย ดูได้เรื่อยๆ แถมดูแล้วชวนหิวดีด้วย ถ้าใครจะดูตอนนี้ก็มีให้ชมกันทาง Netflix ทั้งสองซีซันแล้วนะครับ ไปลองชมกันได้
ความรู้สึกหลังดู
ชื่อเรื่อง: Isekai Shokudou (Restaurant to Another World)
ภาษา: ญี่ปุ่น
ประเภท: อาหาร, แฟนตาซี
ปีที่ฉาย: 2021
จำนวนตอน: 13 ตอน
คะแนน: 7.5/10
เรื่องย่อ
เป็นการเล่าถึงเรื่องราวของร้านอาหาร Youshoku no Nekoya ที่เปิดมามากกว่า 50 ปีแล้ว โดยทางร้านได้สร้างสรรค์อาหารรสเลิศ พร้อมกับสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่เข้ามาทานอาหารที่ร้านด้วยบริการที่เป็นกันเองและดีเยี่ยม
ถือว่าเป็นร้านอาหารสไตล์ตะวันตกที่มีความพิเศษมาก เนื่องจากในทุกวันเสาร์ทางร้านจะทำการหยุด 1 วัน เพื่อต้อนรับลูกค้าพิเศษที่มาจากต่างถิ่น และต่างเผ่าพันธุ์ให้สามารถเข้ามาทานอาหารที่ร้านได้ แม้อาหารจะไม่ได้แตกต่างจากอาหารที่เสิร์ฟให้กับคนทั่วไปแล้ว
แต่ก็สามารถสร้างความประทับใจให้กับแขกต่างเผ่าพันธุ์ได้เป็นอย่างดี จนในที่สุดร้านแห่งนี้ก็ถูกขนานนามว่าเป็น ร้านอาหารต่างโลก ที่คู่ควรกับการมาชิมอาหารรสเลิศที่สุด
เป็นการ์ตูนซีรีส์ แนวการทำอาหาร และแฟนตาซีของญี่ปุ่นจากปลายปากกาของ จุมเป อินูซูกะ และวาดภาพประกอบโดย คัตสึมิ เอนามิ ทั้งนี้ได้ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 และถูกสร้างเป็น การ์ตูนซีรีส์ ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา
ซึ่งถือไดว่าเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นที่ถูกทำออกมาทั้งในรูปแบบ หนังสือการ์ตูน อนิเมะโทรทัศน์ และการ์ตูนแบบซีรีส์ที่มีหลาย ๆ ตอนให้เราได้ติตดามกันนั่นเอง ดังนั้นใครที่เป็นแฟน ๆ การ์ตูนซีรีส์ เรื่องนี้ ไม่ควรพลาดติดตามกันเลย
การดำเนินเรื่องของ การ์ตูนซีรีส์ ในแต่ละตอนนั้น จะเป็นการนำเสนอเรื่องราวของตัวละครต่างเผ่าพันธุ์ที่มาจากต่างโลก โดยจะเป็นการปูเรื่องให้เราได้รู้ที่มาที่ไปของตัวละคร หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์บังเอิญที่ประตูประหลาดได้พาร้านอาหารแห่งนี้มายังสถานที่แปลก ๆ
ในส่วนของการไหลลื่นของเรื่องจะดำเนินไปเรื่อย ๆ อาจจะมีบางช่วงที่ดูขัดใจไปบ้างที่ดำเนินเรื่องช้า และไม่ค่อยตื่นเต้นสักเท่าไหร่
แต่ถ้าหากใครที่ชอบฉากที่ตัวละครจากต่างเผ่าพันธุ์ได้ลิ้มลองอาหารแล้วนั้น ก็ขอบอกเลยว่าคุ้มค่ากับการรอดูมาก ในส่วนของฉากและความสมจริงของภาพก็ถือได้ว่าทำออกมาได้สวยงามและดีระดับนึงเลยทีเดียว แต่ก็ยังมีบางฉากที่ยังขาดความสมจริงไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้เยอะอะไร ดูแล้วสนุก ๆ เพลิน ๆ ช่วยคลายเครียดในวันเหนื่อย ๆ ได้เป็นอย่างดี
