รีวิว LIGHTYEAR สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นวลีเด็ดของพี่ทหารอวกาศชุดเขียวเจ้าของสมญานามบรัชไลท์เยียครับตัวละครตัวนี้เนี่ยทุกคนน่าจะรู้จักอยู่แล้วจาก Toy Story ครับเป็นตัวละครขวัญใจของใครหลายๆคนรวมถึงตัวผมเองด้วยนะครับจริงๆจังๆคนเดียวภายใน ว่างจะไม่ชอบทหารในชุดเกราะอวกาศหญิงแสงเลเซอร์สีแดงแถมยังบินได้อีกต่างหากนอกจากในหนังจะเท่แล้วเนี่ยยังเป็นของเล่นในวัยเด็กในฝันอีกต่างหากครับใช่ครับก็ในฝันจริงๆนั่นแหละเพราะว่าสมัยนั้นเนี่ยแพงเหลือเกินครับคุณแม่เนี่ยเขาไม่ซื้อให้อยู่แล้วต้องบอกว่าบัสและเฮียนั้นอยู่คู่กับซีรีส์ Toy Story มาทุกภาคครับจนกระทั่งมีข่าวเรื่องภาคแยกของเขาออกมาที่ชื่อว่า Lightyear ที่ผมได้ยินเรื่องนี้เนี่ยแอบสงสัยเหมือนกันเพราะว่ามันมีอะไรจะต้องเล่าอีก เอาไว้ที่ผ่านมาเนี่ยเพื่อที่เราเขียนอย่างเดียวมีหนัง Title ระดับยักษ์หลายๆเรื่องเนี่ยดำเนินเวรตามนี้มามากมายแล้วแล้วมันก็แปลกครับมันก็มีแหละครับ
ขึ้นชื่อว่า Animation จากดิสนีย์พิซซ่าแล้วยังไงมันก็ต้องมีมาตรฐาน รีวิว LIGHTYEAR
แต่ว่ามันก็พอๆกับแยกใช่ไหมล่ะครับส่วน Right Year จะอยู่ฝั่งไหนเนี่ยเดี๋ยวได้รู้กันแน่นอนครับแต่ขึ้นชื่อว่า Animation จากดิสนีย์พิซซ่าแล้วยังไงมันก็ต้องมีมาตรฐานของมันอยู่แล้วใช่ไหมครับหนังเรื่องนี้นั้นจะ มันจะบอกเล่าเรื่องราวของบาสทหารอวกาศผู้ซึ่งออกเดินทางไปไกลโชนเรื่องราวแบบไหนกำลังรอเขาอยู่แล้วมันจะชวนประทับใจถึงใครที่แอนดี้จาก Toy Story นั้นมอบให้เขาเป็นอีกหนึ่งของเล่นชิ้นโปรดได้เลยหรือไม่ติดตามได้ใน LINE เกียร์ครับ เป็นดาวที่หักโมโหว่าอะไรนะครับถ้าเรื่องราวในทุกช่วงของอนิเมชั่นเรื่องนี้นั้นล้วนแล้วแต่ยอดเยี่ยมครับจนผมเนี่ยไม่อยากจะเปิดเผยแม้แต่เสี้ยวเดียวของมันเลยครับตั้งแต่ต้นเรื่องรางเลื่อนไปยังท้ายเรื่องทุกช่วงมีความพีคของมันทั้งหมดแนะนำว่าถ้าเกิดว่ายังไม่ได้ดูเทรลเลอร์ยังไม่รู้ข้อมูลอะไรก็ไปดูแบบคนโล่งๆเลยครับไม่จำเป็นต้องดู Toy Story ก็สามารถดูได้แต่ถ้าเกิดว่ารู้จักตัวของบัสและเยียร์สักหน่อยของ ที่มีทั้งความไซไฟผจญภัยมาผสมอยู่ในตัวเองกันอย่างกลมกล่อมครับ
มันมุ่งเน้นไปที่ความเป็นตัวตนของตัวเองเอามากๆ
ที่สุดความประทับใจของผมเลยนะครับหนังเนี่ยมันตั้งใจเล่าเรื่องราวจริงๆหนังมีเป้าหมายที่ชัดเจนมีภาพชัดประเด็นต่างๆก็ดูเรียบง่ายครับเอาจริงๆแล้วมันดูเหมือนจะไม่ได้ต่างจากหนังทั่วไปในตลาดใช่ไหมล่ะครับแต่ด้วยวิธีการเล่าการใส่ใจรายละเอียดและการลงลึกของมันเนี่ยทำให้ผมรู้สึกว่าหนังมันพาเราไปได้ไกลมากขึ้นเรื่อยๆครับสำหรับพวกเรามี Movie นั้นพวกเราชอบหนังแบบนี้มากกว่าหนังที่มีปมเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดแต่ว่าสุดท้าย มากกว่าที่คิดด้วยไม่ว่าหัวข้อที่ใช้ภายในเรื่องนั้นจะดูธรรมดาแต่ก็ชวนนั่งตั้งคำถามตามข้อสงสัยมันคือความสนุกของแนวไซไฟอย่างแท้จริงครับที่เรานั้นมักจะได้มุมมองใหม่ๆจากการดูอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นในแง่มุมของสังคมในแง่มุมของวิทยาศาสตร์ ภาพสวยงามที่ดูสดใสครับความสนุกของหนังนั้นสำคัญที่สุดโดยเฉพาะหนังที่มีตัวเอกเป็นหาอวกาศแบบนี้ครับต่อให้ประเด็นมันจะดีแค่ไหนแต่ถ้าเกิดว่าดูแล้วไม่สนุกเนี่ยมันก็จบใช่ไหมล่ะครับซึ่งไร้เดียงนั้นก็ไม่ได้ทำให้เราผิดหวังแม้แต่น้อยครับตัวหนังนั้นอุดมไปด้วยฉากแอคชั่นซึ่งมันไม่ได้อยากมาเพื่อขายของนะครับหรือทำมาเพื่อใส่ในเทนเลอร์เรียกแขกไปอย่าง น่าจะเป็นเรื่องของอารมณ์ทั้งเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ครับทุกซีนเนี่ยมันสำคัญต่อเนื้อเรื่องจริงๆและฉากหลังของมันเนี่ยก็ดีมากๆครับให้ฟิลด์การผจญภัยและที่สำคัญที่สุดของมันก็คือลูกเล่นครับหลายๆอย่างนั้นแทบจะไม่มีฉากคือพื้นเลยพื้นๆที่ว่าเนี่ยมันเป็นยังไงล่ะลองนึกภาพตามนี้เลยครับ
ตัวละครสายพระเอกเข้าไปทำภารกิจได้อย่างสำเร็จง่ายๆทุกอย่างเต็มไปดั่งใจ
ตัวละครพระเอกเก่งมากส่วน ตัวร้ายก็พลาดโง่ๆจนน่าประหลาดใจทุกๆฉากนั้นจะดูยากเย็นครับแล้วก็ อย่างนั้นยาวต่อเนื่องและเพิ่มระดับความรู้ระทึกขึ้นไปทุกทีครับซีรักชั่นพวกนี้เนี่ยจะยังไปในทิศทางเดียวกับเนื้อเรื่องซะด้วยเราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครต่างๆในแต่สิ่งที่ชัดเจนครับซึ่งเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกว่าเฮ้ยต้องทำได้ดีจริงๆนะซึ่งก็สงสัยตัวเองเหมือนกันครับว่าทำไมมันถึงดีขนาดนั้นพอมานั่งคิดแยกจริงๆเนี่ยผมก็คิดว่าแม้จะดูสวยงาม แต่จะใช้คำว่าสุดยอดด้านเทคนิคที่สุดก็คงจะไม่ใช่ครับแล้วอะไร แฟชั่นเรื่องนี้คำตอบที่ผมหาได้นะครับก็คือการโยงกลับไปหาเรื่องราวกับมันเจ๋งเพราะว่ามันรวมเอาทั้งเรื่องราวแล้วก็ตัวละครเข้าไปด้วยทุกอย่างนั้นมันรวมเป็นเนื้อเดียวกันทั้งหมดมันไม่ใช่ชาบูที่มีไว้เพื่อที่กูจะรู้อย่างเดียวและเพราะว่ามันเป็นแบบนี้เพราะว่ามันรวมทุกอย่างเข้าไปเป็นเนื้อเดียวกัน
รีวิวความรู้สึกหลังดู
ผมรู้สึกว่าตอนที่ดูนั้นมาขี่ง่ายๆมากๆครับจังหวะจากตัวก็สำคัญเช่นเดียวกันตัวหนังนั้นค่อยๆปล่อยของออกมาทีละนิดทีละนิดไม่ปล่อยหมดครับแล้วก็เก็บมาเก็บเอาไว้ในตอนสุดท้ายซึ่งต้องบอกว่าจะหาไคลแม็กซ์ของมันเนี่ยเรียกเสียงฮือฮาให้กับแฟนบาสไร้เกียร์ได้เลยครับมันพีคส่งกันเป็นชาติสไตล์แบบจริงๆแล้วก็ไม่คิดว่าเขาจะทำได้อย่างสร้างสรรค์ขนาดนั้นถ้าเกิดว่าอยากรู้ว่ามันเป็นฉากยังไงก็คงต้องไปพิสูจน์กันครับต่อมาเนี่ยก็อยากจะพูดถึงเรื่องภาพกันก่อนแต่ในความเป็นจริงแล้วเราคงไม่ต้องพูดถึงประเด็น เขาเนี่ยมันก็ขึ้นหิ้งอยู่แล้วถามว่าชอบตรงไหนก็ต้องบอกว่าชอบการออกแบบสภาพแวดล้อมของมันมากๆมันให้ความรู้สึกเหมือนนักเดินทางอวกาศดีบางฉากเนี่ยนึกถึงซีรีส์อย่าง Foundation ผสมกับเกมอย่าง borderland ครับซึ่งก็ไม่เชิงว่ามันเป็นงานเสียงที่เหมือนเลยครับแต่ก็เป็นอารมณ์และบรรยากาศคล้ายๆเฉยๆแต่เนื้อสิ่งอื่นใดครับอยากจะพูดถึงประเด็นของตัวละครซะหน่อยในเรื่องเนี่ยมีคาแรคเตอร์เจ๋งๆดีเยอะเลยทีเดียวรวมไปถึงเจ้า Software robot ที่เหมือนเล็กๆกับอะไรสักอย่างนึงชาวญี่ปุ่นนี่แหละครับซึ่งเจ้าตัวนี้เนี่ยจะโผล่มาเป็นดาวเด่นแย่งซีนครับแล้วก็จะเรียกเสียงหัวเราะให้กับเราตลอดทั้งเรื่องแต่ว่าในเมื่อมันเป็นเรื่องราวของบัสก็ต้องมีส่วนมากที่สุดแน่นอนครับซึ่งมันสะดวกออกมา ตัวละครนี้และผมมั่นใจนะครับว่าถ้าเกิดว่า Toy Story นั้นยังมีภาคต่อถ้าเกิดว่ามีนะครับ
รีวิว LIGHTYEAR หนังที่ผิดพลาดแห่งปี
เราทุกคนนั้นจะรักเจ้าทางโอกาสตรงนี้เยอะมากขึ้นอย่างแน่นอนครับจากเดิมที่ก็ชอบทั้งนั้นแหละสรุปในหนังที่ผิดพลาดแห่งปีสำหรับผมครับทั้งแนวทางที่จริงใจกับคนดูสร้างด้วย Production และทีมงานชั้นเซียร์ที่สุดแล้วของวงการนี้นี่คือนางระดับ Master P อยู่ค่ายนั้นรู้ดีจริงๆนะว่าแฟนเดินตายของบัส Light Year นั้นไม่ใช่เด็กๆยุคนี้แต่เป็นกลุ่มคนที่ติดตามเขามาตั้งแต่ปี 1995 ตั้งค่าครับเด็กๆตอนนั้นก็คือผู้ใหญ่ในตอนนี้และต้องการแบบคิดถึงพริกถึงเขียนจริงๆบรรยากาศสดใสที่ชวนให้เราคิดถึงแต่ก็ลงลึกในรายละเอียดเราได้เห็นสิ่งที่อยากจะเห็นเกี่ยวกับบัสและเฮียโดยที่ไม่มีการยัดเยียดไม่ฝืนและที่สำคัญก็คือมันกลับมาส่งเสริมเรื่องราวให้มันดียิ่งขึ้นไปอีกครับเพราะยุคเรื่องราวที่มีมาก่อนหน้าเข้ากับแนวทางใหม่ๆผมเนี่ยให้มันอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันกับซีรีย์อาเคเลยนะครับส่วนใครที่อยากจะพาลูกหลานไปดูอันนี้เด็กดูได้นะครับน่าจะสนุกไปกับมันมากๆไม่ต้องกังวลว่ามันจะเป็นหนังผู้ใหญ่อะไรแบบนั้นหรือเปล่าแต่ถ้าเกิดว่าคุณเป็นแฟนเดนตายนะครับผมรับประกันว่าคุณดูสนุกกว่าเด็กๆที่นั่งอยู่ตรงนั้นแน่นอน
สรุป
มันเป็นหนังที่ Balance 2 ยุคได้ดีมากที่ มันยกระดับมาตรฐานภาพยนตร์แนวนี้ขึ้นไปอีกครับชื่อเนี่ยขายได้แน่นอนครับแต่ว่ามันไม่ตลอดไปไม่มีอะไรจะดึงดูดคนดูได้เข้ากับตัวนักเลงแล้วนะครับ 10 เต็ม 10 จาก new movie พวกเราให้เต็มไปเลยกับหนังเรื่องนี้ครับส่วนตัวแล้วเนี่ยแทบจะหาข้อติดให้กับหนังเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆครับโอเคแหละครับมันก็มีบางฉากที่อาจจะดูเหวอๆไปสักนิดนึงแต่ก็เข้าใจได้ในแนวทางของมันครับในฐานะหนังไซไฟผจญภัยแล้วไร้เกียร์นั้นส่งมอบความบันเทิงให้กับผมได้อย่างครบถ้วนประทับใจมากที่สุดครับแต่เช่นเคยนะครับไม่ว่าผมจะให้ 10 คะแนน 100 คะแนน 1,000 คะแนนก็อย่าไปเชื่อครับ 10 หลักว่านั้นไม่เข้าตาเห็นในที่สุดเรื่องราวของ Space Ranger คนนี้บัสและเฮียได้โดยตรงของตัวเองครับว่ามันจะฝากความประทับใจให้กับคุณได้หรือเปล่าส่วนตัวผมเนี่ยร้องไห้ไปเรียบร้อยแล้วครับแล้วก็ก่อนจะจ่ายกันไปครับกด 1 ไลค์ให้กับวีดีโอนี้เพื่อให้วีดีโอนี้มีอายุยืนยาวมากยิ่งขึ้นครับไม่ต้องการอะไรมากขึ้นแล้วแต่ถ้าเกิดว่าใครก็อยากจะดูไลก์เห*้ย 16 มิถุนายนนี้ดูได้ทุกโรงภาพยนตร์ครับแต่วันนี้อยู่ Movie ขอตัวลาไปก่อนแล้วเจอกันคลิปหน้าสวัสดีครับ