รีวิว minions the rise of gru การ์ตูนอนิเมชันสุดฮาน้ำตาเล็ด minions the rise of gru อนิเมะต่างโลก การ์ตูนอนิเมชันสุดฮาน้ำตาเล็ด เรื่องราวของกรู เด็กน้อยวัย 11 ขวบ ที่มีความฝันอยากจะเป็นวายร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมกลุ่มหกโฉดวายร้ายที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกใบนี้ แต่กรูถูกปฏิเสธเนื่องจากเขายังเด็กเกินไป กรูจึงพิสูจน์ตัวเอง ให้กลุ่มหกโฉด ยอมรับในตัวเขาให้ได้
เรื่องวุ่นๆที่ชวนให้ติดตามจึงได้เกิดขึ้น การ์ตูนอนิเมชัน เรื่องนี้รับรองได้เลยว่าจะสร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชม ผู้ที่ ดูหนังออนไลน์ ได้อย่างฉุดไม่อยู่ตั้งแต่ต้นจนจบไม่แพ้เรื่อง 5 เทพผู้พิทักษ์ และ sailor moon eternal netflix เลยทีเดียว
ข้อมูลทั่วไป
นับจากปรากฎตัวใน ‘despicable me 2’ เมื่อ 12 ปีก่อน ตัวมินเนียนกลม ๆ เหลือง ๆ ใส่เอี๊ยมยีนส์ก็กลายเป็นคาแรกเตอร์สุดฮิตที่นอกจากจะเป็นการตอกเสาเข็มทำให้ อิลลูมิเนชัน เอ็นเตอร์เทนเมนต์ (Illumination Entertainment) กลายเป็นฐานทัพผลิตแอนิเมชันฮิตป้อนยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ (universal studio) อย่างต่อเนื่อง และปีนี้เหล่าพลพรรคมินเนียนเหลืองกลมก็ได้ฤกษ์กลับมาป่วนกวนฮาเรียกคะแนนจากเหล่าแฟนคลับกันอีกครั้ง
มาในภาคนี้ ทางสตูดิโอผู้สร้างอย่าง illumination entertainment movies ได้ผู้กำกับมาเป็นแพ็คถึง 3 คนเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ไคล์ บัลดา (จาก Minions), แบรด อเบลสัน (จากหนังสั่น Yellow Light) และ โจนาธาน เดล วัล (จาก the secret life of pets 2 เต็มเรื่อง) กลายเป็น 3 สไตล์ที่ลงตัวแบบบอกไม่ถูก
ในตัวเนื้อเรื่องของ Minions: The Rise of Gru ยังคงเน้นไปที่ความวายป่วง ความซุกชนของสมนุตัวน้อยอย่างแก๊งมินเนี่ยนทั้ง 3 อย่าง เควิน สตวร์ท และบ็อบ เหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือเราจะได้เห็นความสัมพันธ์ของตัวละครมากขึ้น ที่มาที่ไปกว่าที่เหล่ามินเนี่ยนจะมาเป็นลูกสมุนของจอมวายร้ายใน มิสเตอร์แสบร้ายเกินพิกัด (despicable me 1 พากย์ไทย)
Minions: The Rise of Gru
ประเภท : แอนิเมชั่น น่าดู / ตลก / ผจญภัย
ให้เสียงพากย์โดย : สตีฟ คาร์เรล, ปิแอร์ กอฟแฟง, ทาราจิ พี. เฮนสัน
กำกับโดย : ไคลย์ บาลดา, แบรด อเบิลสัน, โจนาธาน เดล วาล
เข้าฉาย : 7 กรกฎาคม 2022

เนื้อเรื่องของ minions the rise of gru
หลังจากการออดิชันจบลงด้วยคำดูถูก กรู จึงแก้เผ็ดด้วยการขโมยสร้อยเหรียญนักกษัตรมหากาฬที่กุมอำนาจครองโลก แต่ไม่วายกรูดั๊นถูกลักพาตัวจนเหล่ามินเนี่ยนต้องรวมพลังจุ้มปุ๊กหาทางช่วยเจ้านายน้อยของพวกเขาก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป
หากตัดเกรดหนังที่โจทย์ของมัน ‘Minions The Rise of Gru’ แทบไม่มีจุดให้หักคะแนนเลย อ่ะคนดูอยากดูมินเนียนใช่มั้ย 80% ของหนังภาพที่กระทบเรตินาของเราก็มีแต่เหลือง ๆ ฟ้า ๆ เต็มไปหมด แถมมันยังเล่นมุกกาว ๆ ฮา ๆ กวน ๆ ชวนขยับเหงือกเต็มไปหมด
มิหนำซ้ำมันยังสัมทับด้วยการนำเสนอไลฟ์สไตล์ยุค 70s ที่เวิร์กมาก ๆ ทั้งร้านขายแผ่นเสียง เพลงฟังก์ หนังสุดฮิตอย่าง ‘Jaws’ และแฟชันที่ผลุบ ๆ โผล่ ๆ ให้เราได้ตื่นตาอยู่เรื่อย ๆ รวมถึงมุกล้องหนังดังที่บางมุกก็อาจลึกเกินเด็ก ๆ จะเข้าใจไปหน่อย

เรื่องย่อ
ซึ่งเป็นเรื่องราวเริ่มต้นที่แก๊งวายร้ายสุดโด่งดัง นามว่าหกโฉด กำลังรับสมัครสมาชิกใหม่และกรูได้รับโอกาสในการสัมภาษณ์ เพื่อเข้าร่วมทีม แต่หกโฉด ดันไม่ได้ประทับใจ เด็กชายกรู จึงหาทางแก้เผ็ด ด้วยการ ขโมย หินจักรราศรี ของล้ำค่าที่เหล่าหกโฉดเพิ่งไปแย่งชิงมาเรื่องราววุ่นๆ อารมณ์ขันตลก ร้ายเดียงสา ของกรูและเหล่ามินเนียนจึงบังเกิด

รีวิว minions the rise of gru ความรู้สึกหลังชมอนิเมะเรื่องดังเรามีความเห็นอย่างไร
รีวิว minions the rise of gru การ์ตูนอนิเมชันสุดฮาน้ำตาเล็ด โดยสาระสำคัญของบทหนังไม่มีอะไรมากไปกว่าการบอกให้คนดูตระหนักได้ว่าหลายครั้งความสำเร็จที่แท้จริงก็มาจากทีมเวิร์ก และยังแอบใส่บทเรียนเรื่องความไว้ใจที่หลายครั้งก็ย้อนกลับมาทิ่มแทงเราได้อย่างเจ็บแสบเหมือนเรื่องราวตอนต้นเรื่อง ซึ่งตรงนี้หากคุณพ่อคุณแม่พาลูกน้อยมาดูก็ถือว่าหนังเป็นตัวช่วยในการสอนเรื่องความฉลาดในการจัดการความสัมพันธ์ได้ดีประมาณนึงเลยทีเดียว
อีกจุดที่ถือเป็นไฮไลต์ของหนังคือการปรากฎตัวของตัวละคร อาจารย์โจว ที่มิเชล โหยว (michelle yeoh movies) ฝากเสียงพากย์ปรมาจารย์กังฟูพากย์ไทยในคราบหมอฝังเข็มได้อย่างน่าจดจำ แม้ว่าเวลาบนจออาจเทียบได้แค่ดารารับเชิญแต่เป็นหัวใจหลักส่งผลต่อบทสรุปไม่น้อย และเสียงของโหยวก็ทำให้ภาพของอาซิ่มตัวท้วมเต็มไปด้วยพิษสงและชวนให้นึกถึงหนังฮ่องกงสมัยเธอเป็นนางเอกไม่น้อยเลยทีเดียว
สำหรับเสียงพากย์ของสตีฟ คาเรลล์ (steve carell movies) ก็นับว่ามหัศจรรย์มากเพราะคาเรลล์บีบเสียงให้กรูกลายเป็นเวอร์ชันหนุ่มน้อยได้อย่างน่าเชื่อถือ ส่วนอีกคนที่น่าชื่นชมได้แก่ ทาราจี พี เฮนสัน (Taraji P. Henson) ก็มาให้เสียงพากย์เป็นเบลล์ บอตทอม หรือ ในซับไตเติลภาษาไทยสุดฮาแปลเป็น ขาบานสะท้านซอย ก็ให้เสียงพากย์ที่ดูไดนามิกแอบเซ็กซี่เล็ก ๆ
สร้างสีสันได้ไม่น้อยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีเซอร์ไพรส์ด้วยการเชิญ ฌอง คล็อด แวน แดม (Jean-Claude Van Damme) มาพากย์เป็นตัวร้ายก้ามปูนาม ฌอง คลอว์ และ ดอล์ฟ ลุนด์เกรน (Dolph Lundgren) ในพากย์เป็น สเวนเจนซ์ แต่บอกตามตรงบทพากย์น้อยมากจนฟังไม่ออกเลย (ฮ่าาาา)
นอกจากงานภาพแล้วอีกจุดที่ต้องชื่นชมคืองานออกแบบเสียงและสกอร์ของหนังที่โอบอุ้มและเชิดชูความเป็นหนังตลกกึ่งแอ็กชันของมันได้ตลอดลอดฝั่ง แม้หลายครั้งจะอดคิดถึงอนิเมชันค่ายคู่แข่งอย่าง ‘kung fu panda’ ไม่ได้ก็ตามแต่การออกแบบเสียงที่สอดประสานกับงานภาพก็ทำให้เห็นเลยว่ามันเป็นงานละเอียดที่ช่วยให้หนังทั้งน่าตื่นตาตื่นใจและชวนให้เราฮาอย่างออกรสออกชาติเลยทีเดียว
ส่วนตัวแล้วคิดว่าหากใครไม่ได้ดูภาคก่อนหน้ามาก็ต้องกลัวว่าจะดูไม่รู้เรื่อง เพราะก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรนัก ภาคนี้เหมือนเป็นหนังที่จบในตัว แต่สำหรับใครที่ตามดูมา มันก็เป็นเรื่องราวจุดกำเนิดของกรูและเป็นปฐมบทของ despicable me 3 netflix ที่เล่าถึงที่มาที่ไปของ กรู ถึงแรงผลักอะไรและใครที่ทำให้เขากลายเป็นตัวตนเข้าสู่วายร้ายแบบเต็มตัวอย่างที่เขาเป็น
อีกทั้งมันก็น่าจะเป็นหนังที่หวนคิดถึงสู่ Despicable Me อย่างดี ความตลกบ้า ๆ บ๊อง ๆ ยังคงเป็นเสน่ห์ของหนัง สนุกเพลิดเพลิน ความไม่จริงจังของมันและเหล่ามินเนี่ยน 2ที่แย่งซีนทุก ๆ ครั้งของการปรากฎตัวในหนังก็ทำให้เราพอเอ็นจอยไปกับมันได้ดี

รีวิว minions the rise of gru บทสรุปของอนิเมะเรื่องดัง
โดยสรุปแล้วภาพยนตร์เรื่อง Minions : The Rise of Gru เป็นภาพยนตร์ที่ตอบโจทย์ในแง่ของความบันเทิงได้อย่างเต็มที่ และเหมาะเหลือเกินกับการรับชมเพื่อคลายเครียดครับ แน่นอนว่าการเล่าเรื่องยังคงเป็นสูตรสำเร็จไม่ต่างจากภาคก่อนหน้า แต่ภาพยนตร์ก็สามารถประคองตัวเอาไว้ได้ด้วยความสนุกสนานและการขโมยซีนของเหล่ามินเนี่ยนภาคล่าสุดจอมซน นอกจากนี้ยังเป็นการพาผู้ชมกลับไปสำรวจจุดเริ่มต้นของมหาวายร้ายอย่างกรู และความผูกพันธ์ที่เขามีต่อเหล่ามินเนี่ยนอีกด้วย
จุดเด่น-ข้อสังเกต minions the rise of gru
จุดเด่น
อยากดูมินเนียน คือได้ดูมินเนี่ยนตาเดียวออกมาป่วน ออกมาฮา เต็มสตรีมแน่นอนหนังทำออกมาเน้นฮา ใครอยากคลายเครียด นี่คือหนังที่ตอบโจทย์มาก ๆ กิมมิกยุค 70 ทำได้โดดเด่น ดูดีมีราคา และเสริมส่งกับเรื่องราวได้ดี
ข้อสังเกต
โดยรวมไม่ได้มีอะไรใหม่ และใครต้องการข้อคิดดี ๆ หรือ ความลึกระดับปรัชญา นี่ไม่ใช่หนังของคุณการเอาดาราหนังแอคชั่นมาพากย์ แต่ให้บทพากย์นิดเดียวดูจะไม่ค่อยคุ้มค่าหรือเกิดผลอะไรกับตัวหนังเท่าไหร่มุกป็อบคัลเจอร์บางมุกก็ลึกเกินไปสำหรับเด็ก
