รีวิว The Boy and the Beast

 

มีอนิเมะเก่ามาแนะนำให้อ่านกันนะครับ มีชื่อเรื่องว่า The Boy and The Beast เป็นอนิเมะในปี 2015 เนื้อเรื่องก็เป็นเกี่ยวกับ โลกอีกมิติหนึ่งที่จะมีสัตว์อาศัยอยู่ และก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับด้านมืดในใจของมนุษย์ ในญี่ปุ่น นอกจากผลงานของอนิเมชั่นของ สตูดิโอจิบลิ กับ มาโคโตะ ชินไค ก็มีผลงานของ มาโมรุ โฮโซดะ ผู้กำกับมากฝีมืออีกคนที่มีผลงานน่าจับตามอง The girl who leapt through time , Summer wars และ Wolf children หนังก่อนหน้านี้ของเขาล้วนได้รับรางวัลทั้งสิ้น

ในโลกของเรานั้นนอกจากมนุษย์ที่อาศัยกันอยู่ปกติแล้ว ยังมีโลกอีกโลกที่แอบซ่อนอยู่เหมือนเป็นโลกคู่ขนานกับโลกมนุษย์ ซึ่งนั่นคือ โลกที่เหล่ามนุษย์สัตว์ ที่เป็นมนุษย์แต่มีร่างกายเป็นสัตว์สายพันธ์ต่างๆอาศัยอยู่ ซึ่งในโลกนั้น จะมี ประมุข คอยควบคุมโลกนี้อยู่ และหากประมุขของเหล่ามนุษย์สัตว์ทำการเกษียณตนเอง เพื่อไปเกิดใหม่เป็นเทพ จะทำการเลือก มนุษย์สัตว์ มาคนนึงเพื่อเป็นประมุขของโลกนี้แทน

ซึ่งผู้ที่มีสิทธิ์ได้เข้ารับการชิงตำแหน่งประมุขใหม่นั้นก็มี Iozen ผู้มากความสามารถและเป็นที่เคารพของเหล่าประชาชน อีกผู้ที่มีสิทธิ์คือ Kumatetsu ผู้ที่แขร็งแกร่งและดุดัน จนผู้คนหวาดกลัวไม่มีใครกล้าเป็นศิษย์ และเมื่อ ประมุขปัจจุบัน ได้ยื่นเงื่อนไขนึงให้กับ Kumatetsu จึงเป็นการเริ่มต้นชะตากรรมที่เค้าไม่อาจเคยคาดคิดมาก่อน…

รีวิวอนิเมะ

รีวิว The Boy and the Beast

เรน (คิวตะ) เด็กน้อย มนุษย์ธรรมดา อายุเพียง 9 ขวบ ผู้หนีออกจากบ้าน และมาอาศัยอยู่คนเดียวตามถนนแถวย่านชิบุย่า โดยเรนต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ่นเพื่อที่ต้องการแสดงให้เห็นว่า เค้าสามารถที่จะอยู่คนเดียวได้ แต่ตัวเค้านั้นมีรู้สึกอ้างว้างในใจโดยที่เค้าไม่รู้ตัว ซึ่งพาให้เกิดการชักนำไปสู่โชคชะตาที่ทำให้เค้าได้พบกับ Kumatetsu การดิ้นรนในการใช้ชีวิตของ เรน ในชื่อใหม่ว่า คิวตะ จึงได้เริ่มต้นขึ้น

ตัวละครสองตัวนี้เป็นตัวละครที่มีความต่างกันอย่างสุดขั้ว ซึ่ง Kumatetsu นั้น มีความแข็งแกร่ง ดุร้าย และพลังมากมาย จากการที่เค้าเป็นมนุษย์สัตว์สายพันธ์หมี ทำให้เค้าสามารถโจมตีคู่ต่อสู้ได้อย่างรุนแรง แต่คิวตะ เป็นมนุษย์ธรรมดา ที่ต้องมาแสวงหาความแข็งแกร่งให้ตัวเอง แต่ไม่อาจจะสู้พลังของ Kumatetsu ได้ แต่สิ่งที่เค้ามีคือไหวพริบ ซึ่งทำให้เค้าสามารถมองเห็นหนทางในความแข็งแกร่งของตัวเอง

ทำให้การพบกันของทั้งคู่จากความแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว กลับค่อยๆกลายมองเห็นสิ่งที่ตนเองมี และ สิ่งที่ตนเองขาดไป เพราะฉนั้นแล้วการพัฒนาการของคิวตะ และ ความเปลี่ยนแปลงของ Kumatetsu จึงเป็นจุดที่น่าสนใจและน่าติดตาม

รีวิว The Boy and the Beast

 

สำหรับคิวตะผู้สูญเสียสิ่งสำหรับภายในครอบครัว และ Kumatetsu ผู้ไม่มีครอบครัวอยู่เลย ทำให้คิวตะได้มองเห็น Kumatetsu เหมือนกับตัวเอง ถึงแม้ว่าคิวตะจะรู้สึกถึงความอ้างว้างภายในจิตใจของเค้า แต่การพบเจอของทั้งคู่ทำให้เกิดสิ่งใหม่ๆให้กับทั้งคู่ และทำให้หนังเรื่องนี้ได้มอบความหมายดีๆ กับคำว่า “ครอบครัว” ซึ่งเหมาะกับวันฉายในประเทศไทยซึ่งตรงช่วงวัน Christmas ซึ่งเป็นฃ่วงเทศกาลที่หลายๆคนจะได้อยู่ฉลองกับครอบครัว

สิ่งที่หนังต้องการแสดงสื่อถึงออกมาอีกอย่างคือเรื่องของความรู้สึก ซึ่ง คิวตะ นั้นหนีออกจากบ้านตั้งแต่เด็กและได้พบเจอกับมนุษย์สัตว์อย่าง Kumatetsu ทำให้เค้าเริ่มแยกแยะไม่ออกว่า ตัวเค้านั้นเป็น มนุษย์ หรือว่า สัตว์อสูร กันแน่ ซึ่งตัวละครที่มีบทบาทในความรู้สึกของคิวตะและให้ความรู้สึกในใจของมนุษย์ธรรมดาออกมา อย่าง คาเอเดะ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ด้วย และเรื่องนี้ยังเกี่ยวพันกับกฎบางอย่างของโลกของมนุษย์สัตว์ ซึ่งจุดนี้ก็ช่วยทำให้เราได้รับข้อคิดดีๆ จากเรื่องของจิตใจ และได้รับรู้ว่า ทุกๆคนก็มีปัญหาของตัวเองอีกด้วย

รีวิว The Boy and the Beast

รีวิว The Boy and the Beast

เรื่องก็มีอยู่ว่า เด็กหนุ่มที่ชื่อว่าเรนนั้นเขากำลังเสียใจเรื่องที่แม่เขาเสียชีวิต และเขากำลังจะถูกรับเลี้ยงโดยญาติฝั่งแม่ แต่เรนนั้นไม่อยากไป เขานั้นอยากไปอยู่กับพ่อของเขามากกว่า แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าพ่ออยู่ไหน เรนได้หนีออกจากบ้านเขาได้เข้าไปในซอยก็มีหนูตัวหนึ่งอยู่ ซึ่งเรนนั้นก็ได้ให้อาหารหนูตัวนั้นไป ทำหนูตัวนั้นขึ้นไปอยู่บนหัวเรนและตาม

เรนไปทุกที่ เรนได้มานั่งแอบอยู่ที่จอดจักยาน อยู่ดี ๆ ก็มีคนแปลกหน้าเข้ามาทักถามว่าอยากไปอยู่กับเขาไหม ไปเป็นลูกศิษย์ของเขา ด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ เรนเห็นท่าทางเขาเหมือนไม่ใช่คนก็ตกใจ แต่เขาก็ตามคนแปลกหน้านั้นไป คนแปลกหน้าเดินเขาไปในซอย พอเรนเดินตามมาก็ทำให้เขามาอยู่อีกมิติหนึ่งซึ่งที่นี่มีแต่สัตว์อาศัยอยู่ เรนก็งงและ

ตกใจมากวิ่งวุ่นไปทั่วจนโดนพวกสัตว์จับได้ สัตว์พวกนั้นจะเอาเรนไปทำเป็นอาหารแต่โชคดีที่ พระที่มีชื่อว่ายาชุคุโบะ ผ่านมาพอดีเขาได้ช่วยเรนไว้ได้พอดี ยาชุคุโบะก็มีรูปร่างเป็นหมู ยาชุคุโบะได้พาเรนเดินเล่น แต่ก็มาเจอชายแปลกหน้าที่ชื่อว่าคุมัทเท็ตสึ ซึ่งเป็นคนแปลกหน้าที่เรนเดินตามเข้ามาในมิตินี้

ไม่บ่อยนักที่ผมจะได้ชมอะนิเมะก่อนที่จะฉายจริง ในช่วงเวลาที่ผลงานจากจิบลิเริ่มจะห่างหายไป ทำให้งานจาก Mamoru Hosoda ยิ่งทวีความน่าใจขึ้นมากในสายตาผม

อุดมไปด้วยเหล่าซูเปอร์สตาร์ที่มาให้เสียงพากย์
‘ศิษย์มหัศจรรย์ กับอาจารย์พันธุ์อสูร’ มีเหล่าซุป’ตาร์มากมายมาร่วมให้เสียงพากย์ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น อาโออิ มิยาซากิ (Nana, My Mother’s Chronicle, Wolf Children), โคจิ ยากุโช (Cure, Babel, The World of Kanako), โชตะ โซเมะตานิ (Himizu, Parasyte 1-2, Bakuman), ลิลี่ แฟรงกี้ (Like Father Like Son, Our Little Sister, Bakuman), โย โออิสึมิ (Gegege no Kitaro, I am a Hero) และรวมไปถึง Suzu Hirose จากหนัง ‘Our Little Sister’ ที่เพิ่งดูไปด้วย

แน่นอนว่า หลายคนคงไปดูเรื่องนี้เพราะใครสักคนที่ผมว่ามา

บทเยี่ยมแฝงปรัชญา
เรื่องราวในหนังแอนิเมชั่นอย่าง ‘The Boy and the Beast’ แฝงเอาไว้ด้วยแง่มุมคิดหลายๆ อย่าง

ซึ่งตรงนี้ ต้องขอบอกไว้ก่อนว่า อาจจะแทรกสปอยล์อยู่บ้าง หากไม่ต้องการรับรู้ก็ข้ามไปได้นะครับ

มันสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ในระดับครอบครัว ที่บางครั้งการเป็นพ่อมันอาจจะไม่ได้หมายถึงเฉพาะคนที่เป็น “พ่อจริงๆ” ก็ได้ หลายครั้งมันก็ก่อเกิดในบุคคลที่ไม่ได้เป็นอะไรกันมาก่อนแต่กลับผูกพันกันอย่างเหลือเชื่อ อาจแฝงอยู่ในความสัมพันธ์ระหว่างครูกับลูกศิษย์ ที่บางครั้งครูเองก็อาจไม่มีความสามารถมากพอจะเคี่ยวเข็ญศิษย์ได้ด้วยด้อยซึ่งประสบการณ์ แต่การมีศิษย์ก็อาจเป็นอีกทางหนึ่งจะบำบัดให้ทั้งสองฝ่ายต่างได้พัฒนาตัวเองไปพร้อมๆ กัน

รีวิวอนิเมะออนไลน์

ความรู้สึกหลังดู

ผกก. เลือกจะเล่าแง่มุมความเป็นมนุษย์อยู่พอสมควร แม้มนุษย์จะมีขีดจำกัดด้านพละกำลังที่ด้อยไปกว่าสัตว์ แต่สัตว์อสูรทั้งหลายต่างก็เกรงกลัวมนุษย์เพราะมนุษย์นั้นมีสิ่งที่พวกเขาไม่มี นั่นคือ ด้านมืดในจิตใจ (อาจฟังดูเหมือน Star Wars อยู่บ้างในมุมๆ นี้) ที่หนังเลือกแสดงออกมาในรูปของรูโบ๋ นัยว่าคนที่มีปมมาก่อน ถ้าวันหนึ่งได้พบกับสิ่งกระตุ้น มันก็อาจจะออกมาอาละวาด ควบคุมจิตใจและทำลายทุกอย่างได้มากกว่าการใช้กำลังเสียอีก

และการควบคุมด้านมืดนั้นก็จำเป็นต้องใช้จิตใจเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย

นอกจากนั้น หนังยังเลือกจะพูดถึงกำลังใจสำหรับคนที่เกิดมาอาจไม่มีพร้อมหรือมีข้อจำกัดอะไรบางอย่าง ว่าพวกเขาไม่ควรเลยที่จะต้องท้อแท้ ขอเพียงพยายามฝึกฝนตนให้เก่งและแกร่งขึ้น เมื่อทุกคนทำได้เช่นนั้น ความภาคภูมิมันก็จะบังเกิดเอง

และความสิ้นหวังก็จะหายไปจากใจพวกเขา

ดูอนิเมะออนไลน์

งานภาพชั้นยอด แถมด้วยเพลงประกอบจาก Mr.Children
ถ้าคุณเคยชมงานเก่าๆ ของโฮโซดะที่ผมว่ามาข้างต้นแล้ว คงไม่ปฏิเสธว่า งานของเขานั้นพิถีพิถันด้านงานภาพมาแต่ไหนแต่ไร และในหนังเรื่องนี้ก็เช่นกัน ลายเส้นละเอียดและคม ภาพพื้นหลังก็สวยงาม งานที่ต้องเยอะมากอย่างในฉากสนามกีฬาก็เข้าขั้นสุดยอด แถมยังเลือกที่จะวาดผู้ชมด้วยลายเส้นอีกแบบที่แตกต่างจากตัวหลักอีกเสียด้วย

ใน ‘The Boy and the Beast’ จะมี ฉากฝึกฝนพัฒนาตัวเอง ฉากต่อสู้ ซึ่งจังหวะของเขาก็ทำออกมาค่อนข้างพอดี ทำให้ผู้ชมพากันขำคิกคักตามไปได้ สนุกลุ้นไปกับการต่อสู้ของพวกเขาไปด้วยได้

งานภาพถือว่าทำได้ดีกว่าจะแค่สอบผ่าน

หนังปิดฉากลงหลังผ่านฉากพีคๆ ไป ไม่ต้องรีบลุกไปไหนนะ เพราะมีเพลงประกอบหนังเรื่องนี้จากศิลปิน ‘Mr.Children’ ให้ฟังกันระหว่าง End Credit ด้วยนะครับ

ชื่อภาพยนตร์: The Boy and the Beast / ศิษย์มหัศจรรย์ กับอาจารย์พันธุ์อสูร
ผู้กำกับภาพยนตร์: Mamoru Hosoda
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Mamoru Hosoda
นักแสดงนำ: Kumiko Aso, Riri Furanki, Suzu Hirose, Aoi Miyazaki, Koji Yakusho, Shota Sometani
ความยาว: 119 นาที
แนว/ประเภท: Animation, Action, Adventure, Fantasy
อัตราส่วนภาพ: 1.85 : 1
เรท: ไทย/, MPAA/
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 24 ธันวาคม 2558
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Nippon Television Network (NTV), Dentsu, Kadokawa, Studio Chizu

รีวิวการ์ตูนอนิเมะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *