รีวิว the lion king 2019 ภาพยนตร์เพลง การ์ตูนดัง ดิสนีย์
สำหรับวันนี้ทางเราก็จะพาทุกคนย้อนวันวานไปพบกับการ์ตูนดิสนีย์สนุกๆ อนิเมะ2021 ที่เป็นการ์ตูนที่ดังที่สุดอีกหนึ่งเรื่องซึ่งไม่มีใครไม่รู้จักอย่างแน่นอนกับ การ์ตูนที่ดังที่สุดตลอดการอย่าง the lion king 2019 เรื่องราวของสิงโตแห่งผาทระนง เรื่องราวของการผจญภัย โชคชะตา และความรัก ที่จะพาทุกคนไปดูอนิเมะและอินไปกับเนื้อหาอันสุดทราบซึ้งใจแบบน้ำตาไหลกันเลยทีเดียวสำหรับการ์ตูนดัง ดิสนีย์ เรื่องนี้นั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากโดยสามารถกวาดรายได้ มากถึง 968 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯอ่าเล่ามาขนาดนี้แล้ว เรามาดูรีวิวของการ์ตูนดิสนีย์ ผจญภัย
เรื่องย่อ ภาพยนตร์การ์ตูนดิสนีย์ การ์ตูนน่าดูเรื่องนี้
รีวิว the lion king 2019 ภาพยนตร์เพลง การ์ตูนดัง ดิสนีย์ เรื่องราวของสิงโตแห่งผาทระนง The Lion King เมื่อเจ้าป่ามูฟาซ่าถูกฆ่าตาย และสการ์น้องชายผู้ริษยา โยนความผิดนี้ให้กับซิมบ้า ลูกชายของมูฟาซ่า ทำให้ซิมบ้าต้องหนีอดีตอันแสนเจ็บปวดและยึดถือคติการดำรงชีวิตใหม่คือ “ฮากูน่า มาทาท่า” เรื่องราวของการผจญภัย โชคชะตา และความรัก สร้างจากแอนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จ กวาดรายได้ มากถึง 968 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ
มาทำความรู้จักกับการ์ตูนดิสนีย์ ผจญภัย การ์ตูนดังในอดีต เรื่องนี้กันดีกว่า
เดอะไลอ้อนคิง เป็นภาพยนตร์เพลงรูปแบบคอมพิวเตอร์แอนิเมชันอเมริกัน กำกับโดยจอน แฟฟโรว์ และเขียนโดยเจฟฟ์ นาธานสัน ผลิตโดยวอลต์ดิสนีย์พิกเชอส์ เป็นการนำภาพยนตร์แอนิเมชัน ปี พ.ศ. 2537 ชื่อเดียวกันนี้มาสร้างใหม่ โดยการสร้างสัจนิยมแบบภาพถ่ายด้วยคอมพิวเตอร์ ให้เสียงโดยดอนัลด์ โกลเวอร์, เซธ โรเกน, ชเว์เตล ออจิโอฟอร์, บิลลี อิชเนอร์, จอห์น โอลิเวอร์, คีแกน ไมเคิล-คีย์, บียอนเซ่ โนวส์-คาร์เทอร์ และ เจมส์ เอิร์ล โจนส์ ภาพยนตร์เข้าฉายในสหรัฐ วันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2019
ตัวละคร
ดอนัลด์ โกลเวอร์ พากย์เสียง ซิมบา
เซท โรเกน พากย์เสียง พุมบา
ชเว์เตล ออจิโอฟอร์ พากย์เสียง สการ์
บิลลี อิชเนอร์ พากย์เสียง ทีโมน
จอห์น โอลิเวอร์ พากย์เสียง ซาซู
จอห์น คานี พากย์เสียง ราฟิกิ
แอลฟรี วูดาร์ด พากย์เสียง ซาราบี
บียอนเซ่ โนวส์-คาร์เทอร์ พากย์เสียง นาลา
เจมส์ เอิร์ล โจนส์ พากย์เสียง มูฟาซา
วิเคราะห์ The Lion King movie
หลังชิมลางทั้งหนังซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Ironman (2008) และ The Jungle Book (2016) หนังประเดิมไลฟ์แอ็คชั่นจากสินทรัพย์แอนิเมชันดิสนีย์ไปแล้ว ก็ถือว่า จอห์น แฟฟโรว์ เหมาะกับการกุมบังเหียน The Lion King ฉบับสิงโตและสารพัดสัตว์แบบสมจริงเสียที มองเผินๆจากโพรไฟล์อาจจะคิดว่างานนี้ แฟฟโรว์เคี้ยวหมูแน่ๆ แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ อย่าลืมว่า ฉบับแอนิเมชันปี 1994 ถือเป็นงานคลาสสิกระดับชิ้นโบว์แดงที่แฟนๆรักและหวงแหนที่สุด ครองตำแหน่งทั้งแอนิเมชันวาดมือที่ทำเงินสูงที่สุดในโลก เคยกลับมาฉายทั้งแบบ imax กับ 3dที่ยังคงประสบความสำเร็จด้านรายได้ระดับปรากฎการณ์เช่นเดิม ดังนั้นการนำผลงานระดับขึ้นหิ้งแบบนี้หากไม่ได้รับดอกไม้ก็คงโดนกิโยตินจากทั้งคนดูและนักวิจารณ์รุมสับกันเละทีเดียว
ผลจากกรอบที่ตีตราให้หนังดิสนีย์ไลฟ์แอ็กชัน
รีวิว the lion king 2019 ภาพยนตร์เพลง การ์ตูนดัง ดิสนีย์ ปัญหาจากความเป็น “แอนิเมชันอันเป็นที่รัก”การ์ตูนน่าดู ยังคงเป็นกรอบตีตราให้หนังดิสนีย์ไลฟ์แอ็กชันแทบทุกเรื่องทั้ง The Jungle Book, Beauty and The Beast หรือ Cinderella มาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะหากผู้กำกับไม่กล้าบ้าบิ่นแบบ กาย ริชชี ที่เลือกดัดแปลงให้ Aladdin กลายเป็นนิทานอาหรับราตรีฉบับพังค์ ฮิปฮอป จนสำเร็จไปก่อนหน้านี้แล้วก็คงต้องเลือกดัดแปลงโดยบิดมุมมองอย่าง Maleficent แต่แล้ว The Lion King กลับเลือกจะเพลย์เซฟ ด้วยการอิงบทดั้งเดิมของ เจฟ นาธานสัน และ เบรนดา แชปแมน แบบแทบทุกกระเบียดนิ้ว ลามไปยันงานภาพที่เหมือนกางกระดาษลอกลายจากฉบับการ์ตูนแบบเกือบเฟรมต่อเฟรม โดยชูเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กราฟิกมารังสรรค์ให้ภาพ “ดูมีชีวิต” ขึ้นซึ่งก็กลายเป็นดาบสองคมอย่างช่วยไม่ได้
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอาจถือเป็นคุณูปการสำคัญที่ทำให้ช่วงชีวิตนี้ของเราได้กลับมาชม The Lion King ในโรงอีกครั้งแบบเห็นสิงโตดูเป็นสิงโต นกเป็นนก หมูป่า เมียร์แคต แบบเหมือนมีชีวิตจริงราวดูสารคดีสัตว์โลก กอปรกับภาพวิวทิวทัศน์อันงดงามของผาทรนง แอ่งน้ำอันเต็มไปด้วยนกฟลามิงโก้ และทุ่งหญ้าซาวันนาอันแสนงดงาม แต่ใดๆเลยล้วนไร้ความหมายเพราะตัวละครอันเป็นที่รักอย่างซิมบ้า มูฟาซ่า ทีโบน พุมบ้า นาล่า ต่างหากที่เราอยากกลับไปเจอพวกเขาอีกครั้ง ซึ่งโดยส่วนตัวเราประทับใจจุดนี้นะครับ การได้เห็นราฟิกิอุ้มซิมบ้าน้อยท่ามกลางความปลาบปลื้มของมูฟาซ่า ซาราบี และผองสรรพสัตว์แค่นี้ก็คุ้มเกินคุ้มแล้วล่ะ แถมเหล่าสิงโตน้อยยังน่ารักน่าเอ็นดูชวนอุ้มอย่างกับลูกแมวอีก ยิ่งตอนฉากร้องเพลง I Just Can’t Wait To Be King ที่มีนกฟลามิงโกยิ่งสวยงามเป็นอาหารตาที่เพลิดเพลินมาก และไฮไลต์สำคัญคงหนีไม่พ้นตัวละครที่เราโตมาพร้อมปรัชญาชีวิต ฮาคูน่า มาทาท่า อย่างทีโมน กับ พุมบ้า ที่ยังคงเป็นเหมือนเพื่อนช่วยปลอบประโลมเรามาตลอดร่วม 25 ปีที่ในหนังแบบสมจริงเราได้เห็น หมูป่า และ เมียร์แคต จอมกวนแต่จริงใจพร้อมไฝ่ว์ แค่นี้ภาพความทรงจำก็เหมือนถูกดึงมาปรากฎตรงหน้าให้ได้อิ่มเอมใจอีกครั้งแล้วล่ะ
และในความสมจริงของเทคโนโลยีซีจีไอก็ย่อมนำมาซึ่งราคาค่างวดสำคัญที่สุดนั่นคือ อารมณ์ร่วม เพราะการที่จะทำให้สัตว์ดูสมจริงย่อมหมายถึงการต้องพึ่ง “ตรรกะ” ในเชิงชีววิทยา เพราะในโลกความจริง สัตว์ไม่สามารถแสดงอารมณ์แบบมนุษย์ได้ แต่ในทางกลับกันเนื้อเรื่องและแก่นสารของ The Lion King คือการตีความบทละครโศกนาฏกรรมระบือโลกของวิลเลียม เชคสเปียร์อย่างแฮมเลต (Hamlet) ให้กลายเป็นนิทานสอนใจ ดังนั้นเราจึงไม่ได้เห็นสีหน้ากลัวสุดขีดของซิมบ้าน้อย ความกังวลตามหัวอกคนเป็นพ่อของมูฟาซาที่ไม่อยากให้ลูกน้อยถูกควายป่าเหยียบตาย หรือที่สำคัญคือความหน้าเนื้อใจเสือของ สกา ที่มีแผนทรยศต่อพระเชษฐาตัวเอง ดังนั้นสิ่งเดียวที่คนดูจะได้รู้ว่าเหล่าตัวละครสรรพสัตว์คิด รู้สึกอย่างไร เลยต้องพึ่งพาเสียงพากย์เพียงอย่างเดียว และแน่นอนมันเลยนำไปสู่การเปรียบเทียบสำหรับคนที่ผ่านประสบการณ์ชม The Lion King ฉบับแอนิเมชันปี 1994 ในประเด็นต่อๆมาทั้งเสียงพากย์และเพลงประกอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ข้อมูลทั่วไปภาพยนตร์เพลง เดอะ ไลอ้อน คิง
กำกับ จอน แฟฟโรว์/บทภาพยนตร์ เจฟฟ์ นาธานสัน
สร้างจาก เดอะไลอ้อนคิง
บริษัทผู้สร้าง
วอลต์ดิสนีย์พิกเชอส์
แฟร์วิวเอนเตอร์เทนเมนต์
ผู้จัดจำหน่าย วอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์ การ์ตูนวอลดิสนีย์
โมชันพิกเชอส์
วันฉาย 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2019
ความยาว 118 นาที
ประเทศ สหรัฐ
ภาษา อังกฤษ
ทุนสร้าง 250–260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทำเงิน 1,655 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
จุดเด่น-จุดสังเกต
จุดเด่น
งานภาพอลังการน่าประทับใจ
ได้เห็น The Lion King movie ตัวละครตัวละครอันเป็นที่รักมีชีวิต เติมเต็มวัยเด็กได้ดีสำหรับคนดูการ์ตูนมาแล้ว
เหล่าสิงโตน้อยน่ารักมาก เด็กๆน่าจะชอบ
จุดสังเกต
หน้าสัตว์แสดงอารมณ์ไม่ได้ เลยส่งผลต่อดราม่าของเเรื่อง
งานพากย์เสียง ถือว่ายังห่างไกลจากต้นฉบับ
เพลงประกอบบางเพลงยังไม่เข้ากับจังหวะของหนังนัก