รีวิว The Mitchells vs the Machines

บ้านมิตเชลล์ดูเผิน ๆ นั้นอาจจะเป็นเพียงครอบครัวธรรมดาแถมเพี้ยนสุดกู่ ไม่มีอะไรที่ดูดีเลยสักอย่าง แม้แต่คนในครอบครัวยังไม่กล้าหันหน้าเข้าหากัน แต่เมื่อทริปของบ้านมิตเชลล์สู่มหาวิทยาลัยภาพยนตร์ของลูกสาวคนโตอย่าง เคที่ ต้องจบลงอย่างกะทันหัน เมื่อเกิดหายนะขึ้นจากเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเกินกว่าที่มนุษย์จะควบคุม ครอบครัวที่มีรอยห่างระหว่างความสัมพันธ์จึงต้องจับมือกันฟันฝ่าวิกฤตที่ใหญ่ที่สุดที่พวกเขาเจอมาให้ได้ ก่อนที่โลกทั้งใบจะถูกจักรกลยึดครองจนไม่เหลือซาก ปัญหาสำคัญคือ พวกเขาทั้งห่วยและไม่มีอะไรที่เข้าข่ายการเป็นฮีโร่เลยสักนิด แผนการที่ไม่มีความรัดกุมจึงนำมาซึ่งเรื่องราวสุดประทับใจที่จะเป็นบทเรียนสำคัญที่จะเชื่อมตัวให้ครอบครัวที่ห่างเหินกลับมารวมพลังกันเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง แม้จะเป็นท่ามกลางหายนะวันจักรกลยึดโลกก็ตาม

รีวิว The Mitchells vs the Machines

สวัสดีครับ เพื่อนๆที่รักในการดูหนังดูซีรี่ย์ วันนี้ผมมีอนิเมชั่นฟีลกู๊ดน่ารักๆเด็กดูได้ ผู้ใหญ่ก็ดูดี ในช่วงวันหยุดยาวนี้มาแนะนำ นั่นคือเรื่อง The Mitchells vs. the Machines หรือชื่อไทยว่า บ้านมิตเชลล์ปะทะจักรกล โดยเนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับครอบครัวเล็กๆครอบครัวหนึ่งประกอบไปด้วย พ่อ แม่ ลูกชายคนเล็ก พี่สาวคนโต และเจ้าหมาปั๊ก ถึงแม้จะเป็นครอบครัวเล็กๆแต่ก็ประกอบไปด้วยความแตกต่างทางนิสัยกันอย่างมาก

เมื่อลูกสาวคนโตจะต้องไปเข้าเรียนมหาวิทยาลัยตามความฝันที่อยากเป็นผู้กำกับภาพยนต์ โดยที่พ่อซึ่งเป็นคนค่อนข้างหัวโบราณจึงไม่ค่อยเห็นด้วยและเป็นห่วงว่าลูกสาวจะเลี้ยงตัวเองได้ด้วยอาชีพนี้จริงๆหรือ ส่วนลูกสาวก็น้อยใจว่าพ่อทำไมถึงไม่สนับสนุนและไม่เข้าใจในตัวเธอบ้าง จนกลายเป็นความไม่เข้าใจกันในบ้านระหว่างพ่อกับลูกสาวคนโต และเมื่อถึงวันที่ลูกสาวต้องไปเข้ามหาวิทยาลัย พ่อจึงตัดสินใจจัดทริประยะไกลพาทั้งครอบครัวไปส่งลูกสาวคนโต บรรยากาศในรถก็เต็มไปด้วยความอึดอัดระหว่างพ่อกับลูก โดยระหว่างการเดินทางได้พบกับกองทัพหุ่นยนต์ที่ตั้งใจจะยึดครองโลก ครอบครัวมิตเชลล์จึงต้องรวมพลังกันในครอบครัวเพื่อช่วยมนุษยชาติให้รอดพ้นจากมหันตภัยครั้งนี้

อนิเมะ

รีวิว The Mitchells vs. the Machines บ้านมิตเชลล์ปะทะจักรกล

เนื้อเรื่อง

The Mitchells vs. the Machines เป็นหนังครอบครัวที่อบอุ่น เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อน ชวนให้นึกถึงหนังอย่างเรื่อง ‘Coco วันอลวน วิญญาณอลเวง’ ที่ทำเอาใครต่อใครน้ำตาตกในความซาบซึ้งกันมาแล้ว ในหนังเรื่องนี้ผู้กำกับได้ถึงสะท้อนพฤติกรรมของสังคมในปัจจุบันอย่างเช่น การกินข้าวร่วมกันในครอบครัวแล้วต่างคนต่างก้มหน้าเล่นมือถือ หรือปัญหาทางความคิดที่ไม่ลงรอยกันระหว่างพ่อแม่และลูกที่ต่างคนต่างก็มีความคิดเป็นของตัวเอง ลูกอยากเรียนคณะนี้แต่พ่อกับแม่ไม่เห็นด้วย ลูกก็คิดว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงไม่เข้าใจเราบ้างกลายเป็นช่องว่างระหว่างวัยในครอบครัว หรือ มุมมองที่ว่าทำไมบ้านข้างๆดูมีความสุขและสมบูรณ์กว่าครอบครัวเรา เป็นต้น

มุมมองต่างๆเหล่านี้เป็นสิ่งที่หลายครอบครัวหรือใครหลายๆท่านก็อาจจะประสบพบเจอกันมาบ้างไม่มากก็น้อยสิ่งต่างๆเหล่านี้ถูกถ่ายทอดลงในภาพยนต์เรื่องนี้อย่างลงตัว และหนังก็ได้เสนอให้เห็นว่าทุกคนทุกครอบครัวมีสิ่งดีๆในแบบของตัวเอง นอกจากความประทับใจในความครัวแล้วหนังยังพาคุณไปพบกับมุกตลกๆของผู้กำกับที่สอดแทรกเข้ามาอยู่เรื่อยๆ ทำให้ดูแล้วไม่รู้สึกเบื่อกันเลย CG บอกได้คำเดียวว่าสวยงามมาก และในบางครั้งก็สลับจากภาพ CG กับภาพจริงด้วย แต่ไม่ได้รู้สึกว่ามันขัดกันเลย

นักแสดง: Abbi Jacobson, Danny McBride, Maya Rudolph  อนิเมะออนไลน์

รีวิว The Mitchells vs. the Machines บ้านมิตเชลล์ปะทะจักรกล

การดำเนินเรื่อง

ครอบครัวมิทเชลล์ประกอบด้วยสมาชิก 4 คน คุณแม่ผู้มองโลกในแง่ดีและพร้อมสนับสนุนทุกคน คุณพ่อผู้รักการผจญภัย ลูกสาวผู้รักการทำภาพยนตร์และลูกชายที่ชอบไดโนเสาร์เป็นชีวิตจิตใจ เป็นสมาชิกครอบครัวที่ดูไม่น่าเข้ากันได้ โดยเฉพาะลูกสาวที่รู้สึกว่าตัวเองแปลกและเข้ากับใครไม่ได้เลย จนตัดสินใจเข้าเรียนมหาวิทยาลัยศิลปะ คือสถานที่ที่เธอจะได้เจอพวกเดียวกัน คุณพ่อที่ความสัมพันธ์กับลูกสาวในช่วงนี้ไม่ดีสักเท่าไหร่เลยตัดสินใจจัดโร้ดทริป พาทั้งครอบครัวไปส่งลูกสาวที่มหาวิทยาลัย ระหว่างทางดันเกิดเหตุการณ์ Robot uprising หุ่นยนต์ยึดครองโลก และครอบครัวเพี้ยนๆ นี้กลายเป็นความหวังสุดท้ายของมนุษย์อย่างงงๆ พวกเขาจะกอบกู้โลกได้หรือไม่

รีวิว

เป็นการ์ตูนที่ดูได้ทุกเพศทุกวัยจริงๆ ครับ เนื้อเรื่องสนุก ให้ข้อคิดสอนใจว่าแม้คนเราแต่ละครจะมีความต่างกันแต่ก็อยู่ร่วมกันได้ ทุกคนต่างมีข้อดีเป็นของตัวเอง ชอบการที่เรื่องนี้นำเทรนด์เกี่ยวกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนและวัฒนธรรมการเปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ๆ มาล้อในหนัง มุกตลกในหนังหลายๆ มุกมีความเนิร์ดสูงมากๆ รวมถึงตัวละคนลูกสาวและลูกชายก็มีความเนิร์ดในตัวสูงเช่นกัน มันจึงเป็นการ์ตูนที่ชาวเนิร์ดอย่างผมดูแล้วสนุกสนานกับมันมาก (นานๆ ทีชาวเนิร์ดจะได้เป็นตัวเอกกับเค้า) อีกเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้คืองานภาพของเรื่องนี้ที่สวยและมีความแปลกตา เรียกว่าเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จของ Spider-Man: Into the Spider-Verse ที่ใช้งานภาพอันเป็นเอกลักษณ์ช่วยในการเล่าเรื่อง ในเรื่องนี้จึงใช้เทคนิคงานภาพในการเล่าเรื่องเช่นกัน แต่ใช้เทคนิคแบบแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง   ดูอนิเมะ

"รีวิว The Mitchells vs. the Machines บ้านมิตเชลล์ปะทะจักรกล

รีวิว บ้านมิตเชลล์ปะทะจักรกล

อนิเมชั่นเรื่องนี้มีความโดดเด่นมากตรงการเล่าเรื่องที่แบ่งสัดส่วนออกอย่างลงตัว โดยในช่วงแรกหนังจะใช้เวลาปูตัวละครต่าง ๆ ใส่ปมความขัดแย้งเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นระยะ พร้อมทั้งผลักดันประเด็นความสำคัญของเทคโนโลยีเข้ามาเล่าแบบแทรก ๆ ยังไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่ก็มีฉากให้เศร้าใจ น้ำตารื้นพอ ๆ กับประเด็นของครอบครัวที่อาจจะยังไม่คลี่คลาย ก่อนที่หนังจะเปลี่ยนตัวเองเป็นหนังแนวโร้ดทริปสไตล์ขับรถไปตามที่ต่าง ๆ และมีการใส่ฉากความสัมพันธ์ของครอบครัวแบบที่เห็นกันอย่างชัด ๆ ซึ่งช่วงนี้จะยังไม่ค่อยมีอะไรมาก กระทั่งหนังจะปาฉากไซไฟสุดอลังที่ไม่มีให้เห็นในตัวอย่างมาเริ่มเดินเรื่องอย่างรวดเร็ว

เมื่อตัวละครต้องพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด กลายเป็นหนังแบบวันสิ้นโลก แต่ก็ยังไม่ทิ้งประเด็นของครอบครัว อีกทั้งยังรักษามุกตลกที่ใส่มาอย่างถูกจังหวะที่บางครั้งตอนดูก็ไม่ได้คิดว่าจะขำ แต่ก็ขำออกมาได้หลายฉาก อาจเพราะจังหวะจะโคนของเรื่องราวมันมีความตลกบนความจริงจัง เมื่อหนังต้องการให้เรารู้สึกตามตัวละครนั้น ๆ ซึ่งผมมองว่านี่เป็นสิ่งที่หาไม่ได้ในอนิเมชั่นดิสนีย์ที่ผมมองว่าพยายามโฟกัสประเด็นหนึ่งจนดูเป็นอนิเมชั่นสำเร็จรูป แต่มันมีเอกลักษณ์การเล่าเรื่องของตัวเองเป็นแบบที่ว่า ถ้าตอนแรกอนิเมชั่นเรื่องนี้ตั้งใจทำเป็นหนังเวอร์ชั่นคนแสดงก็ไม่มีอะไรกังขาเลย เพราะพล็อตกับส่วนผสมมันลงตัวมากตั้งแต่ต้นจนจบ

เรื่องย่อ

อนิเมชั่น เรื่องราวของ “เคธี่ มิตเชลล์” สาวน้อยผู้ติดโลกโซเชียล เธอมีความฝันที่อยากจะสร้างภาพยนตร์เป็นของตัวเองมาตั้งแต่เด็ก เมื่อเทียบกับเพื่อนรุ่นเดียวกันแล้ว เคธี่นั้นถือว่าเป็นคนที่ผิดแปลกไปจากคนอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน โดยเธอนั้นมักจะทะเลาะกับ “ริก มิตเชลล์” พ่อของเธอเอง ซึ่งเขาเป็นผู้ที่คลั่งไคล้เกี่ยวกับผืนป่า และธรรมชาติมาก ๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเคธี่ก็ได้สอบติดสาขาภาพยนตร์ในแคลิฟอร์เนียที่เธอใฝ่ฝันเอาไว้ เธอจะต้องย้ายออกไปเรียนในที่ที่ห่างไกลจากบ้าน แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้น เมื่อเคธี่กำลังอวดผลงานอันน่าภูมิใจของตัวเอง แต่พ่อของเธอกลับเผลอทำแล็ปท็อปตกแตก เหตุการณ์นี้ก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เข้าสู่ความตึงเครียดเข้าไปใหญ่ ริกจึงตัดสินใจยกเลิกตั๋วเครื่องบินที่จะไปแคลิฟอร์เนียของเคธี่ และเลือกที่จะขับรถข้ามประเทศ เพื่อไปส่งลูกสาวด้วยตัวเอง โดยการไปส่งในครั้งนี้ ริกก็ได้พาภรรยา ลูกชาย รวมถึงสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขไปด้วย เพื่อที่ทุกคนจะได้มีความทรงจำดี ๆ ร่วมกันก่อนที่เคธี่จะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว

ชื่อภาพยนตร์: The Mitchells vs. the Machines / บ้านมิตเชลล์ปะทะจักรกล
ผู้กำกับภาพยนตร์: Michael Rianda, Jeff Rowe
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Michael Rianda, Jeff Rowe
นักแสดง: Abbi Jacobson, Danny McBride, Maya Rudolph
ดนตรีประกอบ:
แนว/ประเภท: Animation, Adventure, Comedy, Family, Sci-Fi
ความยาว: 113 นาที
ปี: 2021
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
อัตราส่วนภาพ: 1.85 : 1
เรท: ไทย/ , USA/PG
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 30 เมษายน 2021 รับชมได้ใน Netflix
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: Sony Pictures Animation, Lord Miller, Columbia Pictures, Netflix

สรุปโดยรวม

สำหรับ อนิเมชั่น เรื่องนี้ก็จะเป็นเรื่องที่เด็ก ๆ ดูง่าย ในส่วนของเส้นเรื่องหลัก ๆ นั้นจะไม่มีอะไรพิเศษมากมาย แต่ต้องบอกว่าในส่วนของพล็อตเรื่องนั้นก็มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย ซึ่งจะถ่ายทอดเรื่องราวของเทคโนโลยีที่มีพรากปฏิสัมพันธ์กับคนในครอบครัว และยังพลิกมุมกลับให้หุ่นยนต์เป็นสายตาหลักด้วยว่ามนุษย์เองก็ไม่น่าไว้ใจ จะโทษแต่เทคโนโลยีก็ไม่ได้ แถมเรื่องนี้ยังแฝงข้อคิดเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีให้อีกด้วย

ถ้าขึ้นชื่อว่า Sony Pictures Animation แล้ว ไม่ต้องห่วงในเรื่องผลงานด้านภาพเลย เพราะเขาจัดเต็มแบบอลังการอย่างแน่นอน งานภาพถือว่าออกมาได้ละเอียดดีมาก ซึ่งเป็นสไตล์ที่ดูมีเอกลักษณ์น่าสนใจ มีการผสมภาพมีม และดูเดิลในอินเทอร์เน็ตมากมายเลย และก็จะมีการใช้ภาพจริงผสมกับ อนิเมชั่น 3 มิติด้วย เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ทำออกมาดีเรียกคนดูกันสุดๆ ลงทุนทั้งงานภาพ งานเสียงแถมยังให้ความสำคัญกับการลงรายละเอียดของตัวละครอีก โดยรวมถือว่าน่าติดตามมาก ๆ

The Mitchells VS. The Machines การ์ตูนแนวครอบครัว สุดเพี้ยนที่มีความตลก และความไซไฟ ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวของเทคโนโลยีที่ตัวละครหลักในเรื่องมีบทบาทกับมันมากที่สุด ต้องบอกว่าเป็นการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่ได้รับคะแนนจากการรีวิวหนังของคนทั่วไปสูงมากเลยทีเดียว ซึ่งเพียงแค่ออกตัวอย่างมาวันแรกก็ทำเอาคอหนัง อนิเมชั่น อย่างเราต้องรีบกดบัตรซื้อกันทีเดียว และสำหรับใครที่สนใจแนวไซไฟดูได้ง่าย เราก็ขอแนะนำการ์ตูนเรื่องนี้เลย

สรุป

ผมสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าถ้าคุณข้ามไม่ดูเรื่องนี้ คุณจะต้องเสียใจมาก ๆ ผมยกให้เป็นอนิเมชั่นยอดเยี่ยมประจำปี 2021 ที่ควรค่าแก่การรับชมอย่างแท้จริง ดูได้ทั้งครอบครัว ครบทุกรส ไอเดียสุดใหม่ในทุกฉาก มุกทันสมัยไม่มีตกยุค โซนี่ได้งานมาสเตอร์พีชอีกชิ้นต่อจากสไปเดอร์เวิร์สแล้ว องค์ประกอบในด้านงานภาพอนิเมชั่นที่แปลกใหม่ ตัวละครที่น่าสนใจ ดนตรีประกอบที่หลากหลาย ประเด็นครอบครัวที่สามารถเข้ากันได้กับแนวไซไฟ

ผมว่าหลังจากนี้ไปอนิเมชั่นเรื่องนี้จะต้องได้รับการพูดถึง แม้ไม่ใช่ในประเทศไทยไทยก็ต้องเป็นในวงการต่างประเทศแน่นอน เพราะเท่าที่ไปดูกระแสมามีแต่คำชมมากมาย จนแอบเสียดายที่หนังไม่ได้ฉายในโรง ไม่งั้นมันจะมีความอลังการ ตื่นตาตื่นใจมากกว่านี้ แต่ยังไงก็เป็นกำไรของคนที่มีเน็ตฟลิกซ์มาก ๆ ยิ่งมีเสียงไทยแล้วก็อยากจะให้เน็ตฟลิกซ์โปรโมทมากกว่านี้จริง ๆ อย่าลืมไปหามาดูกันนะครับ ผมบอกได้อย่างเดียวว่างานชิงรางวัลอนิเมชั่นปีนี้ ดิสนีย์มีหนาวบ้างแล้วนะครับ

รีวิวอนิเมะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *