รีวิว The Smurfs 1
จะมาแนะนำการ์ตูนเรื่อง The Smurfs เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันไตรภาค ที่นำโครงเรื่องมาจากหนังสือการ์ตูนชุดเรื่อง เดอะสเมิร์ฟ และรายการโทรทัศน์แอนิเมชัน เมื่อปี ค.ศ. 1980 โดยการ์ตูนเรื่องนี้เป็นผลงานของนักวาดการ์ตูนชาวเบลเยียม นามว่า Peyo (เปโย)
เรื่องราวของบรรดาเหล่าตัว Smurfs ทั้ง 6 ตัว ที่หนีการไล่ล่าของพ่อมดปีศาจ Gargamel แล้วเกิดหลุดรอดมิติออกมาหมู่บ้านของเหล่า Smurfs โผล่กลางมหานคร New York ทำให้บรรดาเหล่า Smurfs ที่หลุดมิติมาทั้งหลาย ต่างต้องหาทางกลับไปยังหมู่บ้านของตัวเองให้ได้ก่อนจะถูกปีศาจ Gargamel จับตัวไป
โคลัมเบีย พิคเจอร์สและโซนี พิคเจอร์ส อนิเมชัน ภูมิใจเสนอ The Smurfs ผลงานสร้างโดยเคอร์เนอร์ เอนเตอร์เทนเมนต์ คัมปะนี ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดยนีล แพทริค แฮร์ริส, เจย์มา เมย์ส, โซเฟีย เวอร์การาและแฮงค์ อาซาเรีย ในบทการ์กาเมล กำกับโดยราจา กอสเนล อำนวยการสร้างโดยจอร์แดน เคอร์เนอร์ บทภาพยนตร์โดยเจ. เดวิด สเต็ม และเดวิด เอ็น. ไวส์และเจย์ เชอริค ร่วมกับเดวิด รอนน์ เรื่องราวโดยเจ. เดวิด สเต็มและเดวิด เอ็น. ไวส์ จากตัวละครและผลงานโดยเปโย ควบคุมงานสร้างโดยเอซรา สเวิร์ดโลว์, เบน ฮาเบอร์และพอล นีซัน กำกับภาพโดยฟิล เมโฮซ์, บีเอสซี ออกแบบงานสร้างโดยบิล โบส ลำดับภาพโดยซาบรินา พลิสโก้, เอ.ซี.อี. ควบคุมสเปเชียล วิชวล เอฟเฟ็กต์โดยโซนี พิคเจอร์ส อิเมจเวิร์คส์ อิงค์ ควบคุมงานวิชวล เอฟเฟ็กต์โดยริชาร์ด อาร์. ฮูเวอร์ ออกแบบเครื่องแต่งกายโดยริต้า ไรแอ็ค ดนตรีโดยเฮเตอร์ เพอเรรา
SMURF, and all Smurfs characters (C)Peyo. All Rights Reserved. Smurf และ The Smurfs เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ STUDIO PEYO. รีวิวอนิเมะ
สเมิร์ฟ ถือกำเนิดขึ้น ในปี 1958 โดยศิลปินชาวเบลเยี่ยมชื่อปิแอร์ “เปโย” คัลลิฟอร์ด ได้สร้างครอบครัวสเมิร์ฟลงในหนังสือการ์ตูน “Schtroumpfs” ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในทันที และมีจดหมายมากมายหลั่งไหลไปถึงมือของบรรณาธิการด้วยความต้องการอยากเห็นพวกเขามากกว่านี้ และตลอดระยะเวลาห้าสิบปีหลังจากนั้น พวกเขาก็กลายเป็นปรากฏการณ์ ที่โลดแล่นมีชีวิตในหนังสือการ์ตูน หนังสือ ซีรีส์โทรทัศน์ ภาพยนตร์ วิดีโอเกม ไลฟ์โชว์และตุ๊กตา (ขายได้กว่า 300 ล้านตัว) เสน่ห์ที่ข้ามยุคสมัยของตัวละครเหล่านี้เติบโตขึ้นพร้อม ๆ กับเด็กที่เติบโตขึ้นมาด้วยการดูสเมิร์ฟ ซึ่งรวมถึงทางการ์ตูนเช้าวันอาทิตย์ ตอนนี้ได้กลายเป็นพ่อแม่ และแนะนำให้ลูก ๆ ของพวกเขาได้รู้จักสเมิร์ฟเป็นครั้งแรก
ผู้อำนวยการสร้างจอร์แดน เคอร์เนอร์กล่าวว่า ง่ายมากสำหรับการหาเหตุผลที่ครอบครัวสเมิร์ฟได้สร้างความบันเทิงให้กับผู้คนทั่วโลกมารุ่นแล้วรุ่นเล่า ไม่เพียงแต่พวกเขาจะน่ารักเท่านั้น แต่พวกเขายังเป็นตัวแทนของมนุษยชาติที่ดีที่สุดด้วย “พวกสเมิร์ฟเป็นตัวแทนของชนชาติครับ” เคอร์เนอร์บอก “พวกเขาให้น้ำหนักกับครอบครัวและความสำคัญของการร่วมแรงร่วมใจกัน ที่สำคัญกว่านั้น พวกเขามักจะมองเห็นข้อดีในตัวคนอื่นก่อนเสมอ พวกสเมิร์ฟแคร์กันและกันและคอยดูแลกันเป็นอย่างดีครับ”
บัดนี้ พวกสเมิร์ฟได้ย่างเท้าออกจากหมู่บ้านของพวกเขาเป็นครั้งแรก และได้โลดแล่นในโลกของจอเงินด้วยภาพยนตร์โดยโคลัมเบีย พิคเจอร์และโซนี พิคเจอร์ส อนิเมชันเรื่อง The Smurfs “มันเป็นหนังเกี่ยวกับสเมิร์ฟที่อยู่ผิดที่ผิดทางครับ” ราจา กอสเนล ผู้กำกับของเรื่องบอก “เรานำคติการใช้ชีวิตของสเมิร์ฟไปใส่อยู่ในนิวยอร์ก ซิตี้ยุคปัจจุบัน”
เรื่องราวของเคอร์เนอร์ในการนำเหล่าสเมิร์ฟสู่จอเงินเริ่มต้นตั้งแต่มีตติ้งอาหารเช้าในปี 1980 กับผู้บริหารสถานีเอ็นบีซี แบรนดอน ทาร์ทิคอฟฟ์ ทาร์ทิคอฟฟ์แนะนำให้เคอร์เนอร์อ่านหนังสือชุดเกี่ยวกับพวกสเมิร์ฟ ซึ่งทาร์ทิคอฟฟ์กำลังคิดจะพัฒนาเป็นซีรีส์ เคอร์เนอร์ติดอกติดใจเรื่องราวนี้ในทันที แน่นอน ทาร์ทิคอฟฟ์ได้นำ The Smurfs ลงจอช่วงเช้าวันเสาร์ โดยซีรีส์ฮันนา-บาร์เบราเรื่องนี้ได้ฉาย 256 เอพิโซดตลอดระยะเวลากว่าแปดปี
ในปี 1997 เคอร์เนอร์ได้ส่งจดหมายฉบับแรกจากจำนวนหลายฉบับไปถึงลาฟิก ตัวแทนลิขสิทธิ์ของแบรนด์สเมิร์ฟ เพื่อบอกเล่าถึงความสนใจของเขาในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ และในปี 2002 หลังจากที่มีดราฟท์ที่ประสบความสำเร็จและประทับใจของ Charlotte’s Web ที่ดัดแปลงจากนิยายคลาสสิกโดยอี.บี. ไวท์ ของเคอร์เนอร์ ทายาทของเปโยก็รู้ว่า พวกสเมิร์ฟจะได้รับการดูแลอย่างดี
เวโรนิค คัลลิฟอร์ด ลูกสาวของเปโย กล่าวว่า พ่อของเธอได้สร้างเสน่ห์ที่เป็นสากลให้กับงานของเขา “พวกสเมิร์ฟทุกคนจะคล้ายคลึงกัน แต่แต่ละคนก็จะมีเอกลักษณ์ของตัวเอง” เธอบอก “ทุกคนสามารถมองเห็นตัวเองในสเมิร์ฟคนใดคนหนึ่งค่ะ มีสเมิร์ฟหนึ่งคนสำหรับทุกบุคลิก พวกเขามีนิสัยใจดี ชอบเข้าสังคม พวกเขามีคุณสมบัติทั้งหลายทั้งปวงที่คนเราอยากจะมีค่ะ”
รีวิว The Smurfs 1
คัลลิฟอร์ดตั้งข้อสังเกตว่า มีบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในชีวิต แต่พวกสเมิร์ฟก็จะเป็นจุดอ้างอิงไม่เปลี่ยน “เรื่องราวนี้ยังคงได้รับความนิยมอย่างสูงหลายยุคสมัยเพราะคนก็ยังเป็นคนอยู่ดี เรายังคงเป็นเรา และพวกสเมิร์ฟก็สะท้อนภาพของตัวเราในชีวิตของเรา เราสามารถปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย หรือเทคโนโลยีที่แตกต่างออกไปได้ แต่ตัวตนของเราก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ”
คัลลิฟอร์ดและครอบครัวของเธออยากจะสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับพวกสเมิร์ฟมานานหลายปีแล้ว เมื่อเห็นได้ชัดเจนแล้วว่า เคอร์เนอร์มีวิสัยทัศน์และความกระตือรือร้นเช่นเดียวกับพวกเธอ คัลลิฟอร์ดก็มองว่ามันเป็น “เวทมนตร์ จอร์แดนเป็นคนแรกที่เราพบ ที่อยากจะสร้างหนังสเมิร์ฟแบบเดียวกับที่เราอยากจะสร้างน่ะค่ะ”
เธอบอกมันเป็นการทำให้ความฝันกลายเป็นจริงสำหรับคัลลิฟอร์ด ผู้เติบโตขึ้นมากับงานของพ่อ “พวกสเมิร์ฟถือกำเนิดขึ้นในปี 1958 ซึ่งเป็นปีที่ฉันเกิดค่ะ” เธอบอก “ดังนั้น พวกสเมิร์ฟก็เลยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฉันตั้งแต่ต้น ฉันใช้ชีวิตอยู่กับพวกสเมิร์ฟมาโดยตลอด พ่อของฉันทำงานที่บ้าน แล้วตอนที่ฉันกลับจากโรงเรียน สเมิร์ฟก็จะอยู่ทุกหนทุกแห่ง และเราก็จะพูดสเมิร์ฟกัน สำหรับฉัน การมีสเมิร์ฟอยู่รอบตัวเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ”
เคอร์เนอร์รู้สึกว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นรูปแบบใหม่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับบทต่อไปของเรื่องราวสเมิร์ฟ ซึ่งทั้งหมดถ่ายทำในนิวยอร์ก ซิตี้ตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ เช่นเซ็นทรัล ปาร์คและปราสาทเบลเวเดียร์ รวมไปถึงเอฟเอโอ ชวอร์ซ, รัสเชียน ที รูม, ร็อคเฟลเลอร์ เซ็นเตอร์และพรอสเพ็ค ปาร์คในบรู๊คลิน
เคอร์เนอร์กล่าวเสริมว่า ความชำนาญและสัมผัสที่อ่อนโยนของผู้กำกับราจา กอสเนล บวกกับประสบการณ์ตรงของเขาในการผสมผสานไลฟ์แอ็กชันและตัวละคร CG เข้าด้วยกันใน Scooby-Doo และ Beverly Hills Chihuahua ทำให้เขาเป็นตัวเลือกที่เพอร์เฟ็กต์ “ผมต้องบอกว่าราจาเป็นหนึ่งในคนที่ฉลาดที่สุด มีสัญชาตญาณเฉียบคมที่สุด ใจดีที่สุดและวิเศษสุดที่สุดเท่าที่ผมเคยร่วมงานด้วย” เขาบอก “ทุกวันเป็นวันที่มหัศจรรย์ เราทุกคนต่างก็อยากสร้างหนังที่เราจะภูมิใจกับมัน และช่วยสร้างวิสัยทัศน์ที่เขามีสำหรับตัวละครเหล่านี้ให้เป็นจริงครับ”
ครอบครัวนี้อยากจะรักษาแบบฉบับของสเมิร์ฟให้ซื่อตรงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเคอร์เนอร์ก็คิดเช่นกัน “สิ่งที่สำคัญที่สุด” คัลลิฟอร์ดกล่าวเสริม “คือสเมิร์ฟจะยังคงเป็นสเมิร์ฟอยู่ พวกเขาเพิ่งเคยออกจากหมู่บ้านของพวกเขาเป็นครั้งแรก ซึ่งนั่นเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากค่ะ” รีวิวอนิเมะออนไลน์
ความรู้สึกหลังดู
มีคำถามมากมายที่จำเป็นต้องได้รับคำตอบในเรื่องของสเมิร์ฟ และเคอร์เนอร์ก็มองเห็นคำตอบในกรอบของแฟรนไชส์นี้ สเมิร์ฟเป็นใคร แล้วพวกเขามาจากไหน การ์กาเมลไปที่นั่นได้อย่างไร และทำไมเขาถึงทำตัวเลวขนาดนั้น ทำไมเขาถึงสร้างสเมิร์ฟเฟ็ตต์ขึ้นมาล่ะ
หนึ่งในประเพณีที่ยังคงเดินหน้าต่อไปคือการแนะนำสเมิร์ฟใหม่ ๆ ทีมผู้สร้างมีโอกาสได้จินตนาการสเมิร์ฟใหม่ขึ้นมาสามคนสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ นั่นคือพานิคกี้, เครซีและกัทซี่ ซึ่งรายสุดท้ายนี้แหละที่จะรับบทนำ
ฉันเป็นแฟนตัวยงของ The Smurfs ดังนั้นฉันจึงชอบดูหนังเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าฉันจะยังสงสัยอยู่เหมือนกัน สเมิร์ฟมีข้อดี แต่ก็ค่อนข้างน่าผิดหวังเช่นกัน ฉันจะพูดถึงข้อดีก่อนในขณะที่ 3D ไม่โดดเด่นค่อนข้างดี (ฉันเคยเห็นที่แย่กว่านั้นมาก) Hank Azaria นั้นสมบูรณ์แบบในฐานะ Gargamel Jonathan Winters ประสบความสำเร็จในการทำให้ Papa Smurf เป็นสเมิร์ฟที่มีชีวิตชีวาที่สุดและ Neil Patrick แฮร์ริสมอบความตลกขบขันให้กับบทบาทที่ซ้ำซากจำเจ ความรู้สึกที่มีต่อดนตรีผสมกัน ไพเราะและร่าเริง ดูอนิเมะออนไลน์
แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ลืมได้ การแก้ไขอาจเข้มงวดกว่านี้ด้วย สิ่งที่ฉันไม่ชอบมากเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือเรื่องที่คาดเดาได้และค่อนข้างบาง การเขียนและเรื่องตลกที่งุ่มง่าม (รวมถึงการพาดพิงถึงมาริลีน มอนโรที่ไม่เหมาะสม) จังหวะที่เร่งรีบ และนอกเหนือจากปาปา การ์กาเมล
และบางทีอาจเป็นสเมิร์ฟเฟตต์ ไม่แน่ใจนักว่าฉันชอบ Katy Perry หรือไม่ บางครั้งฉันก็เดาว่าใช่ บางครั้งไม่ใช่ และฉันชอบที่พวกเขาอธิบายว่าทำไมมีตัวละครสเมิร์ฟหญิงอยู่หนึ่งตัว) ตัวละครเหล่านี้ไม่ได้พัฒนาเพียงพอหรือมีบุคลิกเพียงพอที่จะทำให้พวกเขาน่าสนใจได้อย่างเหมาะสม . สรุปมีข้อดีแต่ไม่แนะนำ 4/10 เบธานี ค็อกซ์
นี่เป็นข้อเสนอที่เสี่ยงในการเริ่มต้น และไม่มีอะไรบนหน้าจอที่ปัดเป่าความกังวลใจของฉัน ฉันไม่รู้ว่าใครคิดที่จะแต่งงานกับสเมิร์ฟ CG กับโลกแห่งความจริง มันไม่ทำงานเลย ฉันอยากจะเห็นสเมิร์ฟอนิเมชั่นแบบดินสอและสีแบบเก่าในโลกแห่งความเป็นจริงที่คล้ายกับ ‘Who Framed Roger Rabbit’ สเมิร์ฟ CG ดูน่าขนลุกเล็กน้อย พวกเขาไม่มีความสุขในวัยเด็กที่เราเชื่อมโยงกับการ์ตูนอย่างแน่นอน
มีนักแสดงที่ดีบางคนถูกถล่มทลายที่นี่ Neil Patrick Harris, Jayma Mays และ Hank Azaria ต่างพยายามอย่างเต็มที่ ที่จริงฉันชอบนีลและเจย์มาเป็นคู่ พวกเขาดูเหมือนเป็นคู่หูที่สนุกถ้าพวกเขาไม่ต้องกังวลกับการเหยียบย่ำคนแคระสีน้ำเงินตัวใดตัวหนึ่ง
และแฮงค์ อาซาเรียก็เลียนแบบการ์กาเมลได้ดีมาก งานเสียงสเมิร์ฟค่อนข้างยุติธรรมแม้ว่า Katy Perry จะสังเกตเห็นได้ชัดเจนมาก มันไม่ใช่สเมิร์ฟเฟตต์พูด มันคือ Katy Perry ที่พูด เธอเป็นการ์ตูนอยู่แล้วอยู่แล้ว