รีวิว Turbo เจ้าหอยทากนักซิ่ง
สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน ช่วงนี้หนังแอนิเมชั่นกำลังมาแรง เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนมาดามส่ง ‘Despicable Me 2’ เข้าประกวด สัปดาห์นี้ขอนำเสนออีกเรื่องคือ “Turbo” หอยทากจอมซิ่งสายฟ้า…จากค่ายยักษ์ Dreamworks Animation โดยมีตัวละครหลักเป็นหอยทาก…สัตว์เลื้อยคลานพร้อมกระดองขนาดเล็กเท่าปลายนิ้วมือ และเคลื่อนไหวช้าจนทุกคนที่พบเห็นแทบถอดใจ
เห็นชื่อแล้วแปลกใจไหมคะ…หอยทากที่ขยับตัวช้าจะแปลงร่างเป็นหอยสายฟ้าแลบได้ยังไง?
ขอสารภาพว่ามาดามไม่ใช่คอหนังแอนิเมชั่นหรอกค่ะ ที่ได้ดูเพราะสหายรักร่วมมหาวิทยาลัยเรียกร้อง ความจริงเนื้อหาไม่ได้แฟนซีอะไรมากแถมเดาไม่ยาก แต่ที่ทำให้ประทับใจจนอยากแชร์กับคุณผู้อ่านเพราะวิธีการเล่าเรื่องแฝงแง่คิดดีๆ รวมถึงความคิดแบบบวกๆ ของสัตว์น้อยตัวจิ๋วที่ดูไร้ค่าในสายตาคนทั่วไป
ก่อนจะว่ากันเรื่องเนื้อหาสาระและแนวคิดดีๆ มาทำความรู้จักกับทีมผู้สร้างและทีมพากย์กันสักหน่อยดีกว่า…เริ่มที่ผู้กำกับกันก่อน ‘David Soren’ ผู้กำกับมือใหม่แต่คร่ำหวอดในวงการแอนิเมชั่นมาพอสมควร โดยมีผลงานเป็นที่รู้จักอย่าง Madagascar และ Shark Tale…สำหรับ “Turbo” นั้นถือเป็นการกำกับเต็มรูปแบบครั้งแรกและเขาก็ทำได้ดี
ทีมถัดมาที่อยากแนะนำให้รู้จัก ได้แก่ ทีมเขียนบท นำโดย ‘Darren Lemke’ (จาก Jack the Giant Slayer) และ ‘Robert D. Siegel’ (จาก The Wrestler)…เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองเขียนบทด้วยกันแต่ว่าเข้าขากันไม่น้อย ทั้งลักษณะการเล่าเรื่องและวิธีแฝงแนวคิดซึ่งเข้มข้นและค่อนข้างดุดัน ทั้งสองก็สามารถนำไปใส่ในแอนิเมชั่น (รูปแบบที่เด็กๆ ชื่นชอบ) ได้อย่างแนบเนียน ถือเป็นผลงานจุดประกายความคิดและเตือนสติสังคมได้ดี
มาถึงทีมพากย์กันบ้าง…นำทีมโดยนักแสดงดาวรุ่งที่มีผลงานโดดเด่นในช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมา ‘Ryan Reynolds’ (Green Lantern, The Change-up และ Safe House) ครั้งนี้เขารับหน้าที่พากย์เป็น “เทอร์โบ” หอยทากตัวน้อยสายฟ้าแลบซึ่งหลงใหลความเร็วเป็นชีวิตจิตใจ ต่อมาก็ได้แก่ ‘Paul Giamatti’ (The Hangover II และ The Ides of March) เรื่องนี้เขามารับหน้าที่ให้เสียงกับหอยทากอุ้ยอ้ายชื่อ ‘เชต’ พี่ชายของเทอร์โบ
และอีกสองคนที่น่าสนใจ ได้แก่ ‘Samuel L. Jackson’ (The Avengers และ Django Unchained) พากย์เป็นหัวหน้าแก๊งหอยทากนักซิ่งฉายา ‘วิปแลช’ และ ‘Snoop Dogg’ นักแต่งเพลงและนักร้องชื่อดัง เรื่องนี้เขารับหน้าที่ให้เสียงหอยทากสุดกวน หนึ่งในแก๊งหอยฉายาว่า ‘สมู๊ฟ มูฟ’…เห็นรายชื่อแล้วก็การันตีความฮากันได้เพราะแต่ละคนก็มีคุณสมบัติและผลงานที่ผ่านมาไม่ธรรมดาทีเดียว
นอกจากทีมผู้สร้างและนักพากย์มีชื่อเสียงแล้ว เนื้อหาก็น่าสนใจไม่น้อย…เริ่มจากปมปัญหาหลักที่มาดามเกริ่นทิ้งไว้ในช่วงแรก…อะไรทำให้หอยทากตัวน้อยกลายเป็นนักซิ่งตัวเต็งของการแข่งขันรถระดับ โลก?
“เทอร์โบ” มีชื่อเดิมว่า “ธีโอ”…หอยทากจากหมู่บ้านธรรมดาของเขตผู้อยู่อาศัยเล็กๆ ในแอลเอ เขาตั้งฉายาให้ตัวเองว่าเทอร์โบหลังประสบอุบัติเหตุตกลงไปในเครื่องยนต์ของรถแข่งจนเปลี่ยนเป็นหอยจอมซิ่ง…คล้ายเวลาที่เหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ได้รับพลังพิเศษนั่นแหละค่ะ เช่นตอนที่ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ (Spiderman) ถูกแมงมุมกัดแล้วกลายเป็นคนที่มีพละกำลังพิเศษจนได้มีวีรกรรมกู้โลกในที่สุด
ความฮาคือเทอร์โบไม่ได้กอบกู้โลก แต่พลังพิเศษช่วยเขากู้ชื่อเสียงแย่ๆ ของเผ่าพันธุ์หอยทาก จากที่ถูกปรามาสว่าขยับตัวช้าจนแทบไม่น่ารอดจากบรรดานักล่า ก็กลายเป็นหอยทากสุดฮิปที่เคลื่อนตัวเร็วจนเป็นที่เลื่องลือ ที่สำคัญเทอร์โบยังลบคำสบประมาทของพรรคพวกหอยทากที่หาว่าเขาบ้าเพราะเพ้อ อยากเป็นนักแข่งรถระดับโลกอีกด้วย
เห็นได้ว่าความคลั่งไคล้หลงใหลความเร็วของเทอร์โบไม่ใช่เรื่องบ้าบอ แม้จะเป็นไปไม่ได้ถ้าไม่มีปาฏิหาริย์หรือตัวช่วย เช่น อุปกรณ์เสริมต่างๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องประหลาดหรือรับไม่ได้ที่ทุกคนจะมีฝัน เรื่องราวของหอยทากตัวน้อยทำให้ได้ย้อนนึกทบทวนว่าเราเคยมีความหวังหรือความฝันอะไรบ้างหรือไม่? แล้วเราได้พยายามมากพอจะไขว่คว้ามันมาแล้วหรือยัง?
รีวิว Turbo เจ้าหอยทากนักซิ่ง
เลือกอนิเมชั่นเรื่องนี้มาดูในวันหยุดวันสุดท้ายในช่วงหยุดยาวปีใหม่แบบชิวๆ อ่านมาจากเพจของหนังเรื่องนี้ใน facebook หลังดูจบว่าผู้สร้าง (makers) เดียวกับเรื่อง Madagascar และ Kung Fu Panda ถ้ารู้ก่อนคงผิดหวังกับเรื่องนี้พอสมควร เพราะสองเรื่องนั้นออกมาดีและสนุก ชอบทุกภาคเลย แต่ Turbo นี่เฉยๆ ไม่มีอะไรประทับใจเป็นพิเศษ บางช่วงบางตอนก็ยืดไปหน่อย แต่เนื้อหาของหนังใช้ได้ค่ะ น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนได้
เทอร์โบ หรือธีโอ เจ้าหอยทากที่เกิดมาพร้อมความช้าตามสายพันธุ์ชาติกำเนิดเหมือนหอยทากทั่วไป แต่เขากลับหลงใหลในความเร็ว ชอบดูการแข่งรถของมนุษย์ และมีขวัญใจเป็นนักแข่งชื่อดังอย่างกาย ซึ่งมักจะให้แง่คิดกำลังใจดีๆ ผ่านสื่อเวลาให้สัมภาษณ์เสมอ
และนั่นก็เป็นแรงบันดาลใจให้ธีโอไม่น้อย แต่ความหลงใหลของเขากลับทำให้เขากลายเป็นตัวประหลาดในหมู่หอยทากด้วยกัน จนวันหนึ่งธีโอจับพลัดจับผลูไปได้พลังวิเศษจากสารเคมีในเครื่องยนต์ของรถแต่งซิ่งตามถนนมา (เหมือนใน Fast & Furious นั่นล่ะค่ะ) จากหอยทากเชื่องช้าที่ได้แต่กระดึ๊บๆ ก็กลายเป็นหอยทากวิ่งสายฟ้าแล่บ! (ตามสูตรเป๊ะ)
การก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง เดินตามความฝันของธีโอ (เทอร์โบ) น่าจะให้แง่คิด และแรงบันดาลใจได้อยู่บ้าง (เพียงแต่ดูแล้วเหมือนหนังจะขาดพลังไปหน่อย ไม่ค่อยฮึกเหิมอ่ะ) แล้วก็น่าจะเป็นตย. ที่ดีในการไม่รอช้าที่จะทำตามความฝันเมื่อมีโอกาสมาอยู่ในมือ
(ในกรณีของธีโอน่าจะเป็นเปลือกอ่ะนะ) เหมือนตอนที่เชท (พี่ชาย) ถามธีโอว่า “ถ้าพรุ่งนี้นายตื่นขึ้นมาแล้วพลังวิเศษของนายหายไปหมด นายจะทำยังไง” ธีโอตอบว่า “งั้นฉันก็จะทำวันนี้ให้ดีที่สุด”
ความรู้สึกหลังดู
นอกจากนี้ในเวลาที่ชีวิตเรารุ่งเรืองจนถึงขีดสุด การระลึกอยู่เสมอว่าตัวตนที่แท้จริงของเราเป็นใคร มาจากไหน และการมีมิตรแท้ที่กล้าเตือนและพูดความจริงกับเราตรงๆ ก็สำคัญนะ ตัวธีโอเองมีเชท คอยเรียกชื่อจริงของเขาอยู่เสมอ แม้ในยามที่เขาเปลี่ยนชื่อเป็นเทอร์โบหลังได้รับพลังวิเศษ และแม้จะไม่ค่อยให้กำลังใจ แต่เชทก็ทำหน้าที่พี่ที่ดีด้วยการเตือนน้องถึงตัวตนที่แท้จริงของหอยทากซึ่งเกิดมาช้า และไม่อยากให้น้องทำอะไรที่เกินตัว แต่ถ้าธีโอเชื่อฟัง และใช้ชีวิตตามแบบหอยทากต่อไป พลังที่เขาได้มาก็จะสูญเปล่า วันหนึ่งในอนาคตข้างหน้า เขาอาจจะเสียใจที่ไม่ได้คว้าโอกาสนี้ไว้ก็ได้
การจะลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างตามฝันคงต้องอาศัยความกล้าอย่างมาก โอกาสและวันเวลาไม่เคยรอใคร บางทีถ้าโอกาสนั้นยังมาไม่ถึง เราก็คงต้องออกไปตามหาและคว้ามันมาน่าจะดีกว่ารออยู่เฉยๆ แม้ว่าเมื่อถึงที่สุดแล้วไม่ได้เป็นดังหวัง แต่อย่างน้อยเราก็ได้ลงมือทำอะไรลงไปบ้าง ไม่ใช่มานั่งเสียใจกับการไม่ทำอะไรเลยของตัวเอง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเป็นกำไรของชีวิตที่เรียกว่า “ประสบการณ์”
ข้อคิดดีๆ อีกอย่างคือเรื่องของอีโก้ ความหลงและทระนงตนแบบผิดๆ แม้เทอร์โบจะดีใจที่มีพลังพิเศษแต่ก็ไม่ทำให้เขาลืมตัวจนทำลายเผ่าพันธุ์ตัวเองหรือทำร้ายผู้อื่น เมื่อเปรียบเทียบกับตัวละครอื่น โดยเฉพาะบรรดานักแข่งรถมืออาชีพที่ยึดติดกับชื่อเสียงและตำแหน่งแชมป์จนยอมแลกทุกอย่างแม้ต้องทำลายใครก็ตามแล้วต้องย้อนดูตัว อีกเรื่องค่ะ…เราแอบทำร้ายใครเพียงเพราะอีโก้และความหลงตนแบบผิดๆ หรือเปล่า?
ใครว่าแอนิเมชั่นสมัยนี้ไม่มีสาระ ขอบอกว่ามีมากกว่าหนังใหญ่หรือละครบางเรื่องเสียอีก ที่สำคัญย่อยไว้แล้วรอคุณๆ อ้าปากรับเท่านั้น…รับรองว่าจะหลงรักหอยทากขึ้นเยอะเลยล่ะค่ะ
สีสันของแอนิเมชั่นเรื่องนี้ดูสดใสมากๆ เล่นกับสีได้อย่างแจ่ม ผนวกกับการเลือกใช้มุมกล้องของภาพที่เหมาะสมกับการเป็นหนังรถแข่ง ทำให้ภาพ 3 มิติเป็นอะไรที่เหมาะสมที่สุด ขณะที่เรื่องราวก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก เหมาะที่เด็กๆ จะได้ดูกันเพลินๆ อีกทั้งมันก็ยังมีคติข้อคิดและให้พลังที่จะผลักดันให้พวกเขามุ่งมั่นพยายามที่จะไปถึงยังฝันของตัวเองให้ได้ แม้ว่ามันจะดูห่างไกลความเป็นจริงไปสักเพียงใดก็ตาม
จริงๆ เครื่องยนต์เทอร์โบ ก็มีลักษณะที่ใกล้เคียงกับหอยทากมากนะ สงสัยอยู่เหมือนกันว่า คนเขียนบทไม่ก็ผู้กำกับต้องมาดูมันแล้วนึกถึงหอยทากแน่ๆ เลยจับมาเขียนเป็นเรื่องเป็นราวน่ะ
แม้ว่าบางที เราอาจจะเป็นแค่มวยรอง แต่ต้องไม่ลืมว่า หลายคนเขาก็ชอบเชียร์มวยรองนะจะบอกให้ หลายที ที่เราอาจจะเป็นแค่คนนอกสายตา แต่ถ้าเราพยายามมากพอ เราอาจจะกลับมาอยู่ในสายตาของใครต่อใครบ้างก็ได้ หนังดูจะพูดถึงประเด็นของความเป็นพี่น้องกันอยู่บ้าง ไม่ได้เน้นอยู่เพียงประเด็นของการแข่งขันเพียงอย่างเดียว และตั้งคำถามได้ดีว่า “หากพลังของเขานั้นหมดลง เขาจะทำอย่างไร” ซึ่งสิ่งที่เทอร์โบทำจะเป็นคำตอบให้กับทุกคน
หนังสนุกดี สีสันจี๊ดจ๊าดทั้งเรื่อง ใส่แว่นแล้วเห็นภาพ 3 มิติพุ่งเข้ามาหา เรื่องราวที่ดำเนินไป มีมุกบ้างไรบ้าง ดูเพลินตาเพลินใจดี แต่ว่าบางช่วงจะนิ่งไปนิด (แม้ว่าจะเป็นฉากแข่งรถอยู่ก็เถอะ) แต่ช่วงปิดท้ายกลับตีตื้นกลับมาสนุกได้ใหม่ ลงท้าย หนังทำได้ซึ้งน่าประทับใจจบได้สวยทีเดียวแหละ
ไม่มีพิษมีภัย น่าพาเด็กๆ ไปดูกันในช่วงหยุดยาวเช่นนี้นะครับ
ชื่อภาพยนตร์: Turbo / เทอร์โบ
ผู้กำกับภาพยนตร์: David Soren
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Darren Lemke (screenplay), Robert D. Siegel (screenplay), David Soren (screenplay)
นักแสดงนำ(พากย์): Ryan Reynolds, Paul Giamatti, Samuel L. Jackson, Michael Peña, Luis Guzmán
แนว/ประเภท: Animation, Family
เรท: ไทย/ท, USA/PG
ความยาว: 96 นาที
ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: DreamWorks Animation
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 18 กรกฎาคม 2556