รีวิว Wall-E หุ่นจิ๋วหัวใจเกินร้อย

จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามนุษย์ต้องทิ้งโลกไป แล้วมีคนบางคนลืมปิดสวิตช์หุ่นยนต์ตัวสุดท้ายบนโลก? หลังจากหลายร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยวของภาระกิจที่เขาถูกสร้างมาโดยเฉพาะ นั่นก็คือการเก็บกวาดโลก เพราะโลกเต็มไปด้วยขยะและมลพิษ จนมนุษย์ต้องอพยพไปอาศัยอยู่บนสถานีอวกาศนอกโลกชั่วคราว วอลล์-อี (ซึ่งชื่อของเขาย่อมาจาก ผู้เก็บกวาดและจัดเก็บขยะบนโลก) ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่านอกโลกยังมีสิ่งมีชีวิต และหุ่นยนตร์อีกมากมาย เหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นที่เกิดจากการ

ได้ค้นพบเป้าหมายใหม่ในชีวิต (นอกเหนือจากการสะสมของจุกจิก) เมื่อเขาได้เจอกับหุ่นยนต์สำรวจสาวแสนแวววับชื่อ อีฟ การเดินทางท่องกาแลคซี่ของเขาและอีฟ ที่ทำให้เกิดการผจญภัยเหนือจินตนาการ เรื่องราวที่น่าตื่นเต้น โดยมีความลับของอนาคตโลกเป็นปริศนา มีความรักของเพื่อนเป็นแรงผลักดันนอกจาก วอลล์-อีแล้ว ยังมีผู้ร่วมเดินทางผจญภัยข้ามห้วงกาแลคซี่เหนือจินตนาการไปด้วยกันกับเขา ไม่ว่าจะเป็นแมลงสาบที่เป็นสัตว์เลี้ยงของเขา และเหล่าหุ่นยนต์หมดสภาพอีกนับสิบ

รีวิว Wall-E หุ่นจิ๋วหัวใจเกินร้อย

ช่วงนี้กระแสรักษ์โลกกำลังมาแรง ไม่ว่าจะเป็นองค์กรเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมโดยตรงหรือแบรนด์สินค้าที่ขยันออกแคมเปญเกี่ยวกับการลดถุงพลาสติก การนำขยะมาทำเป็นเสื้อผ้าหรือของใช้มันทำให้เรานึกถึงแอนิเมชันสุดน่ารักเรื่องหนึ่งที่เคยดูเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว นั่นคือ Wall-E เรื่องราวของหุ่นยนต์อัดขยะที่ต้องอาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนโลก เพราะมนุษย์ได้อพยพหนีขึ้นยานไปแล้วเนื่องจากสภาพบนโลกโหดร้ายเกินกว่าจะอยู่อาศัยได้

เมื่อ 10 ปีที่แล้วอาจเป็นการดูภาพยนตร์เพื่อความบันเทิงเท่านั้น เราอาจจะยังไม่อินกับเนื้อเรื่องมากนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราเริ่มเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นบนโลกเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่แย่ลง เมื่อกลับไปดูอีกครั้ง Wall-E จึงเป็นเรื่องที่สะท้อนปัญหาอย่างเห็นภาพและทำให้เราตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นอีกเยอะ

Wall-E เป็นหุ่นยนต์อัดขยะที่ใช้ชีวิตกว่า 700 ปีอยู่เครื่องเดียวบนโลก เนื่องจากมนุษย์ได้อพยพหนีโลกอันโหดร้ายขึ้นไปบนยานอวกาศเพื่อรอให้โลกเซ็ตตัวและสามารถอยู่ได้อีกครั้ง แต่แล้ววันหนึ่งก็ได้มีหุ่นยนต์สาวสวยอย่าง อีฟ ลงมายังโลก ทำให้ความโดดเดี่ยวของ Wall-E เปลี่ยนไป แต่ อีฟ ไม่ได้ลงมาเล่น ๆ เพราะเธอมีภารกิจในการหา พืช ที่ยังมีชีวิต เพื่อเป็นสัญญาณว่าโลกจะสามารถกลับมาอาศัยอยู่ได้อีกครั้ง   อนิเมะ

รีวิว Wall-E หุ่นจิ๋วหัวใจเกินร้อย

เนื้อเรื่อง

นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ที่พาเราไปยังยานอวกาศที่มนุษย์อยู่ ความสะดวกสบายบนยานที่ทำให้การใช้ชีวิตของมนุษย์เปลี่ยนไปพอเราลองมองข้ามความน่ารักกุ๊กกิ๊กของตัวคาแรคเตอร์ไป เราจะพบการสะท้อนปัญหาของโลกที่ตอนนั้นเราอาจจะเห็นว่าเวอร์วังมาก แต่เอาเข้าจริง โลกเรากำลังจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ ในไม่ช้า ขยะล้นโลกแล้วจ้า
โลกในยุคนั้นมีสภาพย่ำแย่เกินกว่าคนจะสามารถอาศัยอยู่ได้ เพราะฉะนั้นเลยต้องอพยพขึ้นไปอยู่บนยานเพื่อรอให้โลกปรับสภาพแล้วค่อยกลับมา ทำให้เหลือแต่ Wall-E อยู่เพียงตัวเดียว ซึ่งทำให้เราเห็นว่าถึงแม้มนุษย์จะจากโลกไปตั้งหลายร้อยปีแล้ว แต่เครื่องอัดขยะอย่าง Wall-E ก็ยังต้องจัดการขยะไม่จบไม่สิ้นซะที เหมือนกับว่ามันไม่มีวันหมดไปง่าย ๆ

ทำให้เรานึกถึงสถานที่ที่มีไว้ทิ้งขยะอย่าง บ่อขยะกาซิปูร์ ในประเทศอินเดียที่ขณะนี้มีขนาดประมาณ 40 สนามฟุตบอล และในปีหน้าคาดว่าจะมีความสูงมากกว่าทัชมาฮาล! ซึ่งส่งผลต่อสภาพแวดล้อมในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทางอากาศ ทางน้ำบาดาล ดิน และสุขภาพของผู้พักอาศัยในพื้นที่ แต่ก็จัดการอะไรไม่ได้มากเพราะยังคงมีขยะไปทิ้งที่นั่นเพิ่มทุกวัน ยังไม่นับรวมอีกหลายพื้นที่ทั่วโลกที่กำลังเผชิญปัญหาขยะ จนทำให้มีเทรนด์รักษ์โลก จัดการขยะและถุงพลาสติกออกมาทุกวันนี้ ทำให้เราเริ่มตระหนักได้ว่าโลกอาจจะไปเป็นเหมือน Wall-E ในอีกไม่ช้าก็ได้ (แต่ถึงแม้จะไม่มีใครสามารถอยู่บนโลกได้แล้ว แต่ยังมีแมลงสาปที่ยังอยู่ได้แบบสตรองมาก บ้าไปแล้ว)   อนิเมะออนไลน์

รีวิว Wall-E หุ่นจิ๋วหัวใจเกินร้อย

การดำเนินเรื่อง

ในเรื่อง Wall-E จะไม่เหลือมนุษย์อยู่บนโลกเลยซักคนเดียว เพราะได้มีโครงการพามนุษย์ขึ้นไปบนยานอวกาศและโคจรอยู่นอกโลก จากที่ตั้งเป้าไว้ว่าเพียง 5 ปีจะสามารถกลับเข้ามาอยู่บนโลกได้ แต่สุดท้ายด้วยสภาพย่ำแย่ ยานอวกาศต้องอยู่นอกโลกถึง 700 ปี ทำให้วิวัฒนาการของมนุษย์ก็เปลี่ยนไปด้วย โครงสร้างร่างกายมนุษย์เปลี่ยนไปตามการใช้งาน ความสะดวกสบายที่ได้รับนั่นคือการนั่งอยู่บนเก้าอี้ตลอดเวลา ไม่ต้องขยับตัวเดินไปไหน ทำให้กระดูกหดลง ติดต่อสื่อสารกันผ่านหน้าจอมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างน้อยมาก และมีหุ่นยนต์เข้ามาอำนวยความสะดวกทุกด้าน

รีวิว

จากแผนเดิมที่จะอพยพคนไปแค่ 5 ปีแล้วกลับมา กลายเป็นล่วงเลยไปถึง 700 ปี ! ชีวิตบนยานที่ไม่มีแม้แต่ธรรมชาติ จะมีก็แต่หุ่นยนต์และระบบ AI ทำให้คนไม่รู้จักแล้วว่าการเต้นรำคืออะไร? พืช ต้นไม้คืออะไร? ดินคืออะไร? และต้องเรียนรู้เอาจากข้อมูลในระบบ AI ที่บันทึกเอาไว้

อาจเป็นเรื่องเวอร์วังที่เรายังไม่เห็นภาพมากในขณะนั้น แต่เมื่อผ่านมาเพียง 10 ปี ทำให้คนเริ่มตระหนักมากขึ้นถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่คนเป็นต้นเหตุ นั่นทำให้เราต้องรีบใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อมรอบตัวกันตั้งแต่วันนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้โลกเป็นไปตามที่แอนิเมชันหรือหนังหลาย ๆ เรื่องทำไว้ เพราะเราอาจจะไม่ได้โชคดีหาพืชเจอแบบ Wall-E หรือไม่ได้โชคดีหาดาวดวงใหม่เจอได้อย่างใน Interstellar ก็ได้    ดูอนิเมะ

รีวิว Wall-E หุ่นจิ๋วหัวใจเกินร้อย
รีวิว Wall-E หุ่นจิ๋วหัวใจเกินร้อย

รีวิว Wall-E หุ่นจิ๋วหัวใจเกินร้อย

พิกซาร์ยังคงเป็นเดี่ยวมือวางอันดับหนึ่งเสมอ สำหรับวงการหนังอะนิเมชั่น 3 มิติที่สร้างจากความพิวเตอร์ และเมื่อมองที่ Wall-E หนังการ์ตูนอารมณ์ดีเรื่องใหม่ ที่เล่นประเด็นอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยผลกระทบจากขยะ และแฝงมาพร้อมกับเรื่องราวความรักของหุ่นยนต์แล้ว มองย้อนกลับไปถึงผลงานที่ผ่านๆมา ยิ่งเห็นได้ชัดเลยว่า นอกจากเทคนิคในงานสร้างจะพัฒนาขึ้นตามกาลเวลาแล้ว กับเนื้อหาของหนังก็ต้องบอกว่า พิกซาร์ “เขี้ยว” และ “เข้ม” ขึ้นกว่าเดิมในทุกๆครั้งเช่นกัน

บทหนังของแอนดรูว์ สแตนตัน และจิม เรียร์ดอนเปิดเรื่องได้อย่างน่าสนใจ เมื่อโลกตกอยู่ในภาวะหายนะ เหล่ามนุษยชาติจึงพากันอพยพไปอยู่นอกโลกกันหมด ทิ้งไว้แต่เพียง “Wall-E” หุ่นยนต์กำจัดขยะ ที่มีชื่อเต็มยาวเหยียดว่า Waste Allocation Load Lifter Warth-Class ทำหน้าที่เก็บขยะอยู่บนโลกตัวเดียวเพียงลำพัง โดยเจ้าหุ่นน้อย Wall-E ผู้น่าสงสารมีเพียงแมลงสาบตัวเล็กๆเท่านั้นที่เป็นเพื่อน   ดูอนิเมะออนไลน์

รีวิว Wall-E หุ่นจิ๋วหัวใจเกินร้อย

รีวิว หุ่นจิ๋วหัวใจเกินร้อย

แต่แล้ววันหนึ่ง ยานอวกาศลึกลับก็ส่งหุ่นยนต์สีขาวไฮเทคอย่าง “Eve” ที่มีชื่อเต็มยาวพอๆกันว่า Extra-terrestrial Vegetation Evaluator ลงมายังโลก เพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่แมลงสาบ หลังจากผ่านท่าทีแสนดุดันเกรี้ยวกราด อีฟก็เริ่มตอบรับไมตรีจากวอลล์-อี จากที่อยู่ตัวลำพังมานาน วันนี้วอลล์-อีก็มีเพื่อนกับเขาในที่สุดจนได้ และเป็นเหมือนกับที่เห็นกันมาในหนังตัวอย่าง วอลล์-อีตกหลุมรักอีฟเข้าให้แล้ว

หลังจากสานสัมพันธ์ จนก่อกำเนิดเป็นความรัก อีฟก็ได้รับของขวัญชิ้นพิเศษจากวอลล์-อี และของขวัญชิ้นนั้นก็คือสิ่งที่อีฟได้รับมอบหมายให้มาค้นหา และร่างกายของเธอหยุดทำงาน ตรงนี้เองคือจุดพลิกผัน เพราะก่อนที่ยานอวกาศจะกลับมารับเธอ วอลล์-อีตัดสินใจจากโลกด้วยการเกาะยานตามไป และได้พบว่าสิ่งที่อยู่ในยานอวกาศเหล่านี้ก็คือเหล่ามนุษยชาติรูปร่างตุ๊ต๊ะบ๊ะหลาม ที่ดูจะไม่รู้จักเลยว่า “บ้าน” ที่แท้จริงของพวกเขานั้น ก็คือโลก หาใช่ที่ๆพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ในขณะนี้ไม่!? . . และกับพืชต้นเล็กๆ ที่อีฟนำมา ก็ก่อให้เกิดเหตุการณ์สำคัญที่มีผลต่อทุกคนบนยานลำนี้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่มีชีวิต หรือไม่มีชีวิตก็ตาม และทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคน ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล

เรื่องย่อ

หลังจากหายไปพักหนึ่งกับบล็อกที่ถูกมรสุมพัดกระหน่ำ วันนี้ ผมกลับมาแล้วครับ กลับมาเล่าเรื่องหนังที่ไปดูมาล่าสุด ‘Wall-E’ หลายคนอาจจะไม่ค่อยชอบดูแอนิเมชัน ด้วยเหตุผลว่า ไม่ชอบดูการ์ตูน? นี่มันไม่ใช่แค่การ์ตูนนะ มันสร้างด้วยคอมพิวเตอร์ และทีมงานแอนิเมเตอร์หลายร้อยชีวิตทีเดียวนะเธอ

เมื่อหุ่นกระป๋องตัวหนึ่งที่เหลือรอดเป็นตัวสุดท้ายบน “ดาวโลก” ที่มลพิษเติบโตจนมนุษย์อยู่ไม่ได้ สร้างยานยักษ์เอาไว้ไปท่องอวกาศ “ไปเรื่อยๆ” และทิ้งหุ่นพวกนี้ให้คอยกำจัดขยะให้ แต่เมื่อเหลืออยู่ตัวเดียว และยังคงขยันขันแข็งทำงานอยู่ ก็ชักเริ่มสะสมข้อมูลทางอารมณ์และความรู้สึกแบบมนุษย์มากขึ้นทุกที ในที่สุด ชีวิตของมันก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อมียานลำหนึ่งลงจอด และมีหุ่นยนต์สีขาวตัวหนึ่ง ที่ถูกส่งลงมาสอดแนมหาบางสิ่งบางอย่างบนโลก ความสัมพันธ์แบบหุ่นกับหุ่นกำลังจะเกิดขึ้น และภารกิจของตัวนี้ คืออะไร เป็นเรื่องที่คุณต้องไปสีบหากันเอาเองในโรง

ถ้าถามว่า ความรู้สึกของผมเป็นอย่างไรกับแอนิเมชันเรื่องนี้ คงต้องบอกว่า ชอบมากๆ ครับ Andrew Stanton ผู้เคยฝากผลงานไว้กับ Finding Nemo และ A Bug’s Life กลับมาอีกครั้งในบทบาทผู้กำกับแอนิเมชัน แล้วก็ทำได้ดีเสียด้วย เมื่อหยิบเอาเรื่องราวของหุ่นที่ผู้คนเข้าถึงความรู้สึกของเขาได้ยากกว่ามา เล่าเรื่อง หยิบเอาเรื่องพื้นฐานของมนุษย์มาใส่ลงในชีวิตของหุ่นตัวน้อย แล้วก็เช่นเคยที่หนังของ Pixar นั้น ความพยายามหยิบไอเดียต่างๆ ลงไปใส่ในแอนิเมชัน เห็นได้ชัดเจนจากช่วงชีวิตบนยานอวกาศยักษ์ลำนั้น?

หลังจากค่อนข้าง “ไม่โดน” ไปพอสมควร สำหรับความรู้สึกส่วนตัวของผมกับภาพยนตร์แอนิเมชันของ Pixar เรื่องก่อนอย่าง Ratatouille มาเรื่องนี้ ผมยังหวังว่า จะมีความรู้สึกดีๆ กลับออกมาจากโรง ก็พบว่า ไม่ผิดหวัง

ความเนียนในด้านงานภาพ texture และการเคลื่อนไหว นั้นคงไม่ต้องสงสัย เพราะค่ายนี้ทำออกมาได้เนียนอยู่ทุกเรื่องอยู่แล้ว แต่เนื้อหาและกลวิธีในการดำเนินเรื่อง ยังคงเป็นอะไรที่ต้องยอมรับอยู่ อย่างเรื่องนี้ “Wall-E” หยิบเรื่องราวของ “สิ่งแวดล้อม” มาพูดถึงอย่างโจ่งแจ้ง ตีแสกหน้าคนดูกันไปเลยอย่างไม่ต้องเกรงใจ ด้วยการใส่ความ “ห่วย” ของมนุษย์ลงไปในเรื่อง มนุษย์ที่ทำได้แค่สร้างมลพิษให้กับโลก ก่อนจะรู้ตัวว่า อยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว จึงทิ้งโลกไว้เบื้องหลัง หนีไปพร้อมกับยานอวกาศลำยักษ์ หนีไปเรื่อยๆ และหลงเพลินอยู่กับความสุขของสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างบนยาน และทิ้งหุ่นยนต์ตัวน้อยให้ทำงานเพื่อตนตามยถากรรม?มนุษย์ช่างเห็นแก่ตัวจริงๆสุดท้าย ก็กลายเป็นว่า ต้องไปพึ่งพาหุ่นยนต์ที่กำลังจะกอบกู้โลกอีกครั้ง

 

สรุปโดยรวม

ผมว่า มันช่างเข้ากับสถานการณ์ของโลกในปัจจุบันเสียจริงๆ มนุษย์เอาแต่กอบโกยจากธรรมชาติ เพื่อก่อประโยชน์สุขส่วนตัว ก่อนจะรู้ว่าสิ่งที่ทำกำลังจะกลับย้อนมาทำร้ายตัวเองแล้วก็ทำได้เพียงแค่ “หนี” ความรักของหุ่นสองตัวที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ แต่คนเขียนก็สิ่งให้มันเกิดไปแล้ว สิ่งที่พวกเขาใส่ลงไป มีทั้งพล็อตดราม่า โรแมนติก และคอมมิดี้ ทำให้ผู้ชมได้หัวเราะและยิ้มไปกับเรื่องราวของพวกมัน คือ เสน่ห์ของแอนิเมชันแบบ Pixar ไม่ถึงกับซับซ้อนยากต่อการเข้าใจแบบอะนิเมะของญี่ปุ่น แต่ก็ไม่ไร้สาระเกินไป หรือมีปมเล็กปมน้อยเพียงปมเดียว เพียงหวังจะเข้าถึงแต่ผู้ชมที่เป็นเด็กๆ

หุ่นยนต์มันจะรักกันจริงๆ ได้หรือไม่ ผมคงไม่สนใจ ผมหวังแค่เพียงว่า คนที่ดูแอนิเมชันเรื่องนี้ จะหยิบความรู้สึกที่คนทำอยากจะสื่อเก็บไปคิด และเปลี่ยนแปลงตัวเองได้บ้างเผื่อมันจะช่วยเปลี่ยนโลกได้ด้วย โดยไม่ต้องรอให้ถึงวันที่ต้องพึ่งหุ่นก็ได้การดำเนินเรื่องของหนังนั้นอาจจะไม่ถูกใจสายบู๊หรือหวือหวาเท่าไร เพราะดูกันตามจริงแล้วหนังค่อนข้างเรียบๆ และอาจชวนง่วงได้บางครั้ง แต่ด้วยความที่เหล่าตัวละครน่ารัก มันเลยทำให้เราอยากติดตามเอาใจช่วยพวกเขาต่อไป เมื่อประเด็นของหนังชัดขึ้น เราก็อยากรู้ด้วยว่าหนังจะจบแบบไหน

สรุป

ความรักของวอลล์-อีและอีฟก็ค่อยๆ พัฒนามาตลอดทั้งเรื่อง วอลล์-อีนี่เปรียบเสมือนผู้ชายที่ดูเผินๆ เหมือนจะเป็นไอ้ขี้แพ้ติ๋มๆ แต่ก็เป็นคนซื่อๆ ที่รักใครรักจริง พร้อมจะทุ่มให้กับคนคนนั้น ดูแล้วรู้สึกหลงรักตัวละครนี้มาก เอาใจช่วยตลอด ส่วนอีฟนั้นก็คงเหมือนสาวแกร่งที่ยึดมั่นในภารกิจของตัวเอง แต่พอเจอความรักความเอาใจใส่เข้าไป ก็กลายเป็นคนอ่อนโยนได้ ฉากสุดท้ายก็เป็นอะไรที่กินใจ ตอนที่วอลล์-อีถูกรีบูธเครื่องใหม่แล้วจำอีฟไม่ได้ อีฟก็พยายามเรียกความจำด้วยการนำสิ่งของต่างๆ ที่วอลล์-อีเคยแนะนำตอนแรกนั่นแหละมาโชว์อีกครั้ง ดูแล้วตื้นตันใจดีมาก

รีวิวอนิเมะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *